Venus price

XVS

#408

โครงสร้างของทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Venus ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะในเดือนพฤศจิกายน 2020 เป็นผลให้ไม่ทราบผู้ก่อตั้งและเจ้าหน้าที่บริหาร

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการ Venus กำลังดำเนินการโดยทีมจากโครงการ Swipe Swipe ก่อตั้งร่วมกันโดย CEO Horia Cernusca ซึ่งเป็นนักออกแบบและนักเขียนที่มีประสบการณ์และมีความสามารถพิเศษในการออกแบบอินเทอร์เฟซกับผู้ใช้ โดยร่วมมือกับ Håkon Eide ซึ่งเป็นนักพัฒนาและวิศวกรซอฟต์แวร์ที่มีประสบการณ์และมีภูมิหลังด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

เป้าหมายหลักของ Venus คือการกระจายอำนาจผ่านการกำกับดูแลโดยชุมชน ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าสำหรับทีม นักพัฒนา หรือผู้ก่อตั้ง ทำให้ผู้ถือ XVS สามารถควบคุมเส้นทางที่โปรโตคอล Venus ใช้ได้

Venus มีอุปทานของโทเคน XVS สูงสุดถึง 30 ล้านโทเคน และมียอดจำหน่ายโทเคน XVS มากกว่า 4.2 ล้านโทเคน ณ เดือนพฤศจิกายน 2020

Venus เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแรกที่ดำเนินการ Launchpool บน Binance ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถจับจอง XVS โดยการเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน รวมถึงโทเคน Binance Coin (BNB), Binance USD (BUSD) และ Swipe (SXP) รวมแล้ว 20% ของอุปทานทั้งหมด (6 ล้าน XVS) ถูกจัดสรรให้กับ Binance Launchpool และโทเคนถูกแสดงในรายการบนแพลตฟอร์มซื้อขายแบบ spot ของ Binance ได้ในเวลาเพียงไม่นาน

โครงการนี้ไม่มีการขายล่วงหน้าหรือการขายแบบส่วนตัว และทีมงานไม่ได้รับการจัดสรรโทเคน แต่ 1% ของอุปทานทั้งหมด (300,000 XVS) ถูกสงวนไว้เป็นทุนสำหรับระบบนิเวศ Binance Smart Chain โทเคน XVS ที่เหลืออีก 23.7 ล้านโทเคน จะค่อยๆ ปลดล็อกในช่วงเวลาภายใน 4 ปีโดยผู้ที่ใช้โปรโตคอล Venus

ตามเอกสาร ไวท์เปเปอร์ของโครงการ 35% ของรางวัล XVS รายวันจะถูกแจกจ่ายให้แก่ผู้กู้ 35% ให้แก่ซัพพลายเออร์ และอีก 30% ที่เหลือให้แก่ผู้สร้าง VAI stablecoin

Venus พร้อมให้ซื้อขายบนแพลตฟอร์มซื้อขายแห่งเดียว คือ Binance ตามข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2020 โดยจดทะเบียนเทียบกับ Tether (USDT), Bitcoin (BTC), Binance Coin (BNB) และ Binance USD (BUSD) ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งโดยตรงในการซื้อ Venus

หากต้องการซื้อ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต โปรดดูคำแนะนำง่ายๆ ของเรา

จุดแข็งหลักของ Venus คือความเร็วสูงและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำมาก ซึ่งเป็นผลโดยตรงมาจากการที่ถูกสร้างขึ้นบน Binance Smart Chain นี่เป็นโปรโตคอลแรกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงตลาดการให้กู้ยืมสำหรับ Bitcoin (BTC), XRP Litecoin (LTC) และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อจัดหาสภาพคล่องแบบเรียลไทม์ด้วยการทำธุรกรรมที่แทบจะทำได้ทันที

ลูกค้าที่หาสภาพคล่องโดยการใช้โปรโตคอล Venus ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเครดิต และสามารถกู้เงินอย่างรวดเร็วได้ด้วยการโต้ตอบกับ Venus Decentralized Application (DApp) เนื่องจากไม่มีหน่วยงานส่วนกลาง ผู้ใช้จึงไม่ถูกจำกัดด้วยเขตทางภูมิศาสตร์ คะแนนเครดิตหรือสิ่งอื่นใด อีกทั้งยังสามารถจัดหาสภาพคล่องตลอดเวลาได้โดยการโพสต์หลักประกันที่เพียงพอ

เงินกู้เหล่านี้ได้รับจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใช้ Venus ซึ่งได้รับ APY แบบแปรผันในการบริจาค เงินกู้ยืมเหล่านี้ได้รับการประกันจากเงินฝากที่มีหลักประกันมากเกิน โดยผู้ให้กู้บนแพลตฟอร์ม

เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีด้วยการปั่นตลาด โปรโตคอล Venus ใช้ฟีดราคา oracles รวมถึง Chainlink เพื่อให้ข้อมูลการกำหนดราคาที่ถูกต้องและไม่สามารถแก้ไขได้ ด้วย Binance Smart Chain โปรโตคอลสามารถเข้าถึงฟีดราคาด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนโดยรวมของระบบ

อ่านเกี่ยวกับ Injective Protocol (INJ) ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดตัวผ่าน Binance Launchpad

อ่านเกี่ยวกับ Binance Coin (BNB) โทเคนที่สนับสนุน Binance Smart Chain

เจาะลึกเกี่ยวกับ Decentralized Finance (DeFi) ด้วย CoinMarketCap Alexandria

เรียกดูบล็อก CoinMarketCap เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกล่าสุดและแนวโน้มของตลาด

เครือข่าย Venus ได้รับการรักษาความปลอดภัยโดย Binance Smart Chain ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ทำงานคู่ขนานกับ Binance Chain BSC ทำงานร่วมกับ Ethereum Virtual Machine (EVM) และสามารถทำงานได้แม้ว่า Binance Chain จะออฟไลน์หรือพบปัญหาก็ตาม

Binance Smart Chain ใช้อัลกอริธึมแบบฉันทามติเฉพาะตัวที่เรียกว่า Proof-of-staked Authority (POSA) เพื่อรักษาความปลอดภัยของบล็อกเชน โดยพื้นฐานแล้วเป็นกลไกฉันทามติแบบไฮบริดที่มีทั้ง Proof-of-stake (POS) และ Proof-of-authority (POA) โดยสร้างขึ้นจากเครือข่ายผู้ตรวจสอบความถูกต้องประมาณ 21 คน ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานบน Binance Smart Chain และได้ฉันทามติในการประมวลผลธุรกรรมเมื่อเร็ว ๆ นี้

นอกเหนือจากนี้ ซัพพลายเออร์ของ Venus ยังได้รับการคุ้มครองโดยมาตรการการชำระบัญชีอัตโนมัติ ซึ่งจะชำระบัญชีหลักประกันของผู้กู้โดยอัตโนมัติหากมีจำนวนลดลงต่ำกว่า 75% ของจำนวนเงินที่กู้ยืม ดังนั้นจึงต้องชำระเงินคืนแก่ซัพพลายเออร์ก่อนกำหนดเพื่อรักษาอัตราส่วนหลักประกันขั้นต่ำไว้