## Throne คืออะไร?

Throne ถือเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ในโลกของศิลปะดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวิธีการที่ผู้สร้างและผู้สะสมมีส่วนร่วมกับ NFTs ในแก่นแท้ของมัน Throne มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศ NFT ที่น่าดื่มด่ำซึ่งเชื่อมโยงระหว่างศิลปะ ดนตรี และเทคโนโลยี โครงการนี้นำโดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์จากทั้งโดเมนบล็อกเชนและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ รวมถึงบุคคลสำคัญในวงการดนตรีและศิลปะ

ภารกิจหลักของ Throne คือการพัฒนา Throne Market ตลาด NFT ที่นวัตกรรมใหม่ แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการสะสมและการซื้อขายผลงานศิลปะดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์และมีเพียงชิ้นเดียว ทุกชิ้นเป็นผลงานสร้างสรรค์จริงจากศิลปินในเครือข่าย ที่ถูกทำเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถสะสมได้ นี่เป็นช่องทางใหม่สำหรับการมีส่วนร่วมกับศิลปะและวัฒนธรรมในยุคดิจิทัล โดยทำให้แน่ใจว่าแต่ละผลงานศิลปะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัย ด้วยความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีบล็อกเชน

ระบบนิเวศนี้ได้รับพลังจาก THN โทเค็นที่มีประโยชน์ของ Throne ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำให้การเข้าถึงแพลตฟอร์มเป็นประชาธิปไตยและส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน THN เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ ช่วยในการทำธุรกรรม การให้รางวัลแก่ผู้สร้า

### วิธีการรักษาบัลลังก์ให้มั่นคงเป็นอย่างไร?

Throne เป็นองค์กรบล็อกเชนที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างประสบการณ์เว็บแบบกระจายอำนาจให้ดียิ่งขึ้น โดยมีการรับประกันความปลอดภัยของระบบนิเวศผ่านการใช้วิธีการหลายด้าน มาตรการความปลอดภัยที่ได้รับการนำมาใช้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้, การทำธุรกรรมดิจิทัล, และความสมบูรณ์ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลและค่าความนิยมแบบกระจายอำนาจ

หนึ่งในมาตรการความปลอดภัยหลักสำหรับ Throne คือการรวมกระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์ ด้วยการสนับสนุนการใช้กระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์ Ledger, Throne เพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติม วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บกุญแจส่วนตัวในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ปลอดภัยได้ ทำให้ยากต่อการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างมาก นอกจากนี้ ตัวเลือกในการเข้ารหัสกระเป๋าสตางค์ด้วยรหัสผ่านให้ชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติม รับประกันว่าแม้กระเป๋าสตางค์จะถูกบุกรุกทางกายภาพ ข้อมูลภายในก็ยังคงได้รับการปกป้อง

นอกจากการสนับสนุนกระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์แล้ว Throne ยังรวมการตรวจสอบสองปัจจัย (2FA) เข้ากับโปรโตคอลความปลอดภัยของตน ซึ่งต้องการให้ผู้ใช้ให้ข้อมูลประจำตัวสองรูปแบบก่อนที่จะเข้าถึงบัญชีของตน ลดความเสี่ยงของการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างมาก การใช้ 2FA เป็นวิธีปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่ม

### Throne จะถูกใช้อย่างไร?

Throne ตั้งอยู่ในแนวหน้าของเว็บแบบกระจายอำนาจ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Web3 โดยมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวิธีที่เราโต้ตอบกับเนื้อหาดิจิทัลและการเป็นเจ้าของ ในแก่นแท้ของมัน Throne กำลังพัฒนานิเวศที่มุ่งเน้นไปที่ NFTs (Non-Fungible Tokens) โดยเป้าหมายคือผู้สร้างและผู้สะสม นิเวศนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมชุมชนที่ศิลปะ วัฒนธรรม และการเป็นเจ้าของดิจิทัลผสมผสานกันอย่างไม่มีรอยต่อ

Throne Market ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของนิเวศนี้ ทำหน้าที่เป็นตลาดสำหรับผลงานศิลปะดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์และมีเพียงฉบับเดียว ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปิน NFT ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถใหม่ๆ ในพื้นที่นี้ โดยเสนอชิ้นงานที่หลากหลายสำหรับผู้สะสม ความสำคัญของแต่ละชิ้นงานถูกเน้นย้ำด้วยการทำให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถเก็บสะสมได้ผ่านการทำเป็นโทเค็น ทำให้มั่นใจได้ถึงความแท้จริง การเป็นเจ้าของ และความสามารถในการซื้อขายบนบล็อกเชน

นอกเหนือจากตลาดแล้ว วิสัยทัศน์ของ Throne ยังขยายไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าดื่มด่ำในเว็บแบบกระจายอำนาจ ซึ่งรวมถึงการให้ผู้ใช้มีเครื่องมือในการเล่น สร้าง ครอบครอง สังสรรค์ และสร้างรายได้จากประสบการณ์เสมือนจริงของพวกเ

### เหตุการณ์สำคัญใดบ้างที่เกิดขึ้นสำหรับ Throne?

Throne ได้ประสบกับหลายเหตุการณ์สำคัญที่ได้รูปแบบการเดินทางในโลกของบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล การแต่งตั้ง Nellee Hooper เป็นหัวหน้าฝ่ายความร่วมมือทางวัฒนธรรมและ Gee Roberson เป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งถือเป็นการเคลื่อนไหวทางกลยุทธ์เพื่อเชื่อมโยงระหว่างโลกดิจิทัลและวัฒนธรรม การเคลื่อนไหวนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Throne ในการใช้ประโยชน์จากบุคคลที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเพลงเพื่อส่งเสริมการยอมรับและการผสานรวมเทคโนโลยีบล็อกเชนในภาคส่วนสร้างสรรค์

การระบุสกุลเงินของ Throne ที่เรียกว่า THN บนหลายแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญ ขั้นตอนนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มการเข้าถึง THN ให้กับผู้ชมที่กว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสามารถในการซื้อขายทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายและลงทุนใน THN ได้ง่ายขึ้น การระบุรายการดังกล่าวมีความสำคัญต่อการเติบโตและความมั่นคงของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมันให้แพลตฟอร์มสำหรับการค้นพบราคาและการเข้าร่วมตลาด

การจับมือกับผู้บริหารในวงการเพลงได้เสริมสร้างตำแหน่งของ Throne ที่จุดตัดระหว่างเทคโนโลยีบล็อกเชนและอุตสาหกรรมเพลง การร่วมมือเหล่านี้มุ่งหวังที่จะสำรวจช่องทางใหม่ๆ สำหรับศิลปินและผู้สร้างสรรค์ในการสร้างรายได้จากผลงานของตนและการมีส่วนร่วมกับแฟนๆ ในสภาพแวดล้อมแบบกระจายอำนาจ ด้วยการเชื่



## What Is Throne (THN)?

Throne is a blockchain company building extraordinary experiences for the decentralized web, also known as Web3. A foundation where users own their own data, digital transactions are secure, and exchanges of information and value are decentralized.

Throne is the proprietor of Throne Market, a NFT marketplace to collect and trade unique, single-edition digital artworks. Each artwork is authentically created by an artist in the network, and tokenized as a crypto-collectible digital item that you can own and trade. A new way to interact with art, culture, and collecting on the internet.

Each artwork on Throne is a digital collectible– a digital object secured by cryptography and tracked on the blockchain. The digital artworks on Throne Market are produced by prominent NFT artists and up-and-coming creators.

THN is the utility token for the Throne community, network, and ecosystem designed to democratized platforms and to provide an infrastructure to power tomorrow’s economy. 

We believe that the blockchain and DLT will become the future gold fundamentals for the entire metaverse ecosystem, and this represents the disruption of the multi-billion dollar industry. Our goal, first and foremost, is to deliver a high-quality immersive experience by providing the users an environment where they can play, build, own, socialize and monetize their virtual experiences across multiple platforms, that also support the player-centric ecosystem via a solicitous tokenomic structure. Earning incentives should drive a player's desire to play a certain game, but we firmly believe that it should not be the only incentive. Throughout the Throne ecosystem, players will be able to collect various pets, gemstones, and other collectibles as NFTs. Aside from collectibles users will be also able to create their assets, mini-games and build on top of their land plots. By actively participating and building in the metaverse, users are able to collect tokens and other rare assets as rewards for completing quests, clearing dungeons, and reaching leaderboards.


## How is the THN Network Secured?

THN is an [ERC-20](https://coinmarketcap.com/alexandria/glossary/erc-20) token launched on the [Ethereum](https://coinmarketcap.com/currencies/ethereum/) blockchain. As a result, it is secured by Ethereum’s [proof-of-work](https://coinmarketcap.com/alexandria/article/proof-of-work-vs-proof-of-stake) (POW) consensus mechanism.


## Where Can You Buy THN?

THN is available to trade on numerous exchange platforms, including decentralized exchanges and top centralized exchanges.





Throne

Trust Wallet

MetaMask

Ethereum

Shiba Inu

Chainlink

UNUS SED LEO

Uniswap

ZeroSwap

TAIKAI

ELMOERC

Rook

XMON

Earn Network

Unix Gaming

DEVAI

Tranche Finance

Cajutel

KAMALA HARRIS

Gekko HQ

Spot

1ex Trading Board

The all-new ZKBase platform consists of three main parts: ZKSwap, the innovative Layer 2 AMM DEX utilizing ZK-Rollups technology, payment service ZKSquare, and an NFT minting center and marketplace called ZKSea. With an all-new-look user interface, NFT support, unlimited token listing, smoother withdrawal, optimized efficiency, and multi-chain support, ZKSpace aims to implement EVM-compatible ZK-Rollups and bring the community more layer 2-based products in the near future.

ZKBase

RACA

Sologenic is disrupting the asset trading industry: Tokenized Securities, Crypto Assets & NFTs.

Sologenic.com and sologenic.org are two separate teams. Sologenic.org aka SOLO Core team’s focus is purely on the expansion of the Sologenic as a decentralized ecosystem while the sologenic.com team are working on the launch of an important use-case of the Sologenic ecosystem: Securities Tokenization

Sologenic

Automata Network

Coin98 is a decentralized finance (DeFi) solution that allows users access to cross-chain swaps, staking and yield farming.

To learn more about this project, check out our deep dive of Coin98.

Coin98 aims to fulfill untapped demand in the industry and become a Gateway bridging TradFi users to any DeFi services on multiple blockchains. It accomplishes this mission through a full suite of products, including Coin98 Wallet, Coin98 Exchange, and Space Gate (cross-chain bridge).

Coin98 Wallet: Allows users to store, send, receive, manage crypto assets and connect to numerous dApps on multiple blockchains. It supports over 40 blockchains such as Ethereum, Binance Smart Chain, Solana, Polygon, Avalanche, Terra, etc on both mobile (iOS & android) and Chrome extension versions.

Coin98 Exchange: A multi-chain liquidity aggregator that supports assets across a variety of blockchains, including but not limited to Ethereum, Binance Smart Chain, Solana, Avalanche and Polygon.

Space Gate: A cross-chain bridge that enables swapping and transferring values across multiple networks.

The C98 token is the native utility token of the Coin98 platform and will be used to pay services fees, as staking incentives, for governance, and unique membership rights.

In the Coin98 roadmap, there are plans to develop a launchpad, a lending and borrowing platform, a megafarm, a derivatives market and an NFT marketplace.

In July 2021, Coin98 was a Binance Launchpad project.

Coin98

Biswap (BSW) is a decentralized exchange (DEX) for BEP-20 tokens on Binance Smart Chain (BSC). Biswap promises the lowest transaction fees of any BSC exchange at 0.1% and vows to be committed to innovation in DeFi through its high-quality products and services. Its referral system allows users to invite others and receive referral fees from farms, launch pools, swaps, and a lottery.

Biswap’s core products include the standard DEX functions like an AMM, liquidity pools, yield farming, an NFT marketplace, and an IDO launchpad. In its roadmap, Biswap targets the following:

Listing on major crypto exchanges

Improvements of its NFT marketplace

Cross-chain support

Limit orders

Lending & Borrowing

A personal user dashboard

A swap referral program

Furthermore, Biswap announced a $10 million global incentive program to collaborate with other BSC projects. Partners can expect a 90% fee reimbursement, farming pairs with BSW, a launch pool, marketing promotion, and grants for security audits and project development.

Biswap

SXP is the native utility token of the Solar blockchain. Users can stake it to secure the network and earn rewards, and pay transaction fees on the Solar blockchain. They can also help govern the Solar blockchain by proposing and voting on changes to the protocol, and earn rewards for providing liquidity. Additionally, Solar DApps use SXP as their primary currency.

Solar

APENFT

MBOX is the native utility token that is used for:

MOBOX

Dvision Network

Mines of Dalarnia (DAR) is an action-adventure game with a blockchain real-estate market. MoD is based on a simple and simultaneously captivating gameplay, where users can mine and combine in-game items, then utilize them to upgrade their characters (skills and equipment), thereby increasing their rank in the game. Players can go in search of rare artifacts / relics / minerals, complete quests, team up with other players to defeat monsters and unlock rewards.

Mines of Dalarnia

Seedify.fund(SFUND) Seedify is a blockchain gaming-focused incubator and launchpad that empowers innovators and project developers through access to funding, community and partnership building, and a full support system to help drive the future of gaming and blockchain. Its ecosystem also includes an NFT launchpad for gaming and metaverse assets, along with the industry's first gaming-and-metaverse-asset-centric NFT marketplace, Seedify NFT Space.

Featuring an IGO launchpad with a tiered allocation mechanism, Seedify enables $SFUND holders to stake their tokens and earn staking rewards while gaining access to quality, procured blockchain gaming projects through private sales and initial game offerings. The launchpad's tier system consists of nine tiers. Tier 1 uses a lottery-based allocation process, while tier 2 to 9 participants enjoy guaranteed allocation.

Along with IGOs, stakers can also participate in initial NFT offerings (INOs) and initial metaverse offerings (IMOs) on Seedify's NFT Launchpad. Additionally, staking $SFUND, gives holders the opportunity to receive tokens from the projects that have been selected and supported by Seedify's incubation program.

Committed to bringing the opportunities offered through blockchain gaming and the play-to-earn model to billions around the globe, the Seedify team has established key relationships with numerous VCs and industry peers, to build an extensive support network for blockchain gaming and metaverse startups.

Interested game industry innovators submit their project proposal to the Seedify

Seedify acts as a launching pad for blockchain games and the disruptive play-to-earn gaming model. The gaming industry is gradually entering a new era — previously gamers may spend large sums of money on in-game items with no direct monetary benefits. However, they are now able to make money by earning in-game item non-fungible tokens (NFTs) and tokens, which is facilitated by the play-to-earn revolution.

Blockchain technology has not only opened up more opportunities for gamers and game developers, but it has also offered additional forms of benefits like transparency, ownership, incentive models and digital ownership through NFTs.

The team behind the Seedify project are pursuing a global goal: to acquaint gamers with the blockchain and increase the rate of technology adoption, attract a huge number of users, create more jobs and financial benefits.

Seedify.fund

MDEX is a new decentralized trading protocol that launched in January 2021.

MDEX is an automated market making (AMM) decentralized exchange protocol that operates on the concept of fund pools, sharing some similarities with standard DEXs, but differentiating itself from competitors by using a dual-chain model modeled on both the Ethereum network and the Huobi Ecological Chain (HECO), which gives it access to the liquidity of the Ethereum ecosystem.

A trading platform built on top of HECO, MDEX has an estimated cost for token swaps at $0.001 for each trade, with a transaction speed of three seconds.

Mdex

What Is Velas (VLX)?
Velas is a pioneering solana L1 Fork with Full EVM blockchain bridging the gap between EVM familiarity and unparalleled performance.

Velas is an highly unique dual-chain architecture, seamlessly merging the best of both worlds: the robust security and established developer ecosystem of the EVM with the lightning-fast transaction processing capabilities of Solana. This hybrid approach unlocks a treasure trove of possibilities for Ethereum projects seeking to escape congestion and scale to new heights.

The defining feature of Velas lies in its full EVM compatibility. Existing Ethereum smart contracts can be migrated seamlessly with a single click, eliminating the need for costly code rewrites and preserving the valuable expertise invested in the EVM ecosystem. This one-click migration paves the way for a smooth transition, allowing developers to leverage their existing skills and tools on a platform built for speed and scalability.

It leverages the power of Solana’s parallel transaction processing to deliver lightning-fast speeds exceeding 75,000 TPS. This translates to near-instantaneous transaction finality and minimal fees, a stark contrast to the congested and expensive environment of Ethereum. For dApps and users, this translates to a smoother, more efficient experience.

But speed is just the beginning. Velas is also:

Decentralized: No central authority controls the network. Power is in the hands of the community through a secure Proof-of-Stake (PoS) consensus mechanism.

Carbon-neutral: Velas is committed to sustainability, utilizing a green PoS mechanism that minimizes energy consumption.

Accessible: Building on Velas is a breeze with its extensive developer tools and EVM/Solidity support.

Velas

Tokocrypto was launched in September 2018 and became the first entity registered under Indonesia's Commodities Futures Trading Regulatory Agency (BAPPEBTI) by November of that year. Tokocrypto’s latest project, TKO, is the first Indonesian cryptocurrency to offer a unique hybrid token model.

The token serves several purposes on the Tokocrypto blockchain platform and allows users to participate in crypto exchanges, deposit and savings programs, cross-platform DeFi applications, and NFT marketplaces. Toko Token was officially launched in April 2021 and has since attracted the attention of both private and enterprise users. The Tokocrypto platform was created in tandem with Binance, which serves as a significant backing for the project and its future development.

Toko Token

Perpetual Protocol is a decentralized exchange (DEX) for futures on Ethereum and xDai. Traders can go long or short with up to 10X leverage on a growing number of assets like BTC, ETH, DOT, SNX, YFI and others. Trading is non-custodial, meaning traders always retain possession of their assets, and on-chain. Perpetual Protocol utilizes a virtual automated market maker (vAMM), which provides on-chain liquidity with predictable pricing set by constant product curves. Furthermore, Perpetual Protocol designed its vAMMs to be market-neutral and fully collateralized.

The declared vision of Perpetual Protocol is to create the world’s best, most accessible, and most secure decentralized derivatives trading platform. By building on our DeFi projects and allowing projects to build on Perpetual Protocol, the company embraces the “DeFi money lego” ethos. After hitting a number of milestones in its roadmap, such as launching staking pools and implementing limit and stop-orders, Perpetual Protocol plans to expand to other chains, introduce leveraged tokens, and launch dynamic liquidity in its pools.

Perpetual Protocol

AdEx is a cutting-edge web3 marketing platform utilizing blockchain and programmatic advertising to elevate digital advertising. Through AdEx, Web3 advertisers can access an untapped market of potential crypto users.

Originating in 2017 as a decentralized ad exchange, AdEx has evolved into a full advertising protocol, boasting 20,000+ registered users and processing billions of micropayments on the blockchain. Currently, AdEx serves as a Demand-Side Platform, allowing advertisers to buy traffic through SSPs, conduct real-time bidding, and leverage programmatic technology. Moreover, AdEx maintains direct partnerships with premium publishers, encompassing all interactions between publishers, advertisers, and end users.

ADX, the native token of AdEx, serves as the platform's native utility token, playing a pivotal role in rewards, governance, payment, and staking. It incentivizes validator uptime, ensuring seamless advertising campaigns. The more tokens staked, the more robust the validator network becomes. ADX token holders can stake their tokens to receive generous rewards and participate in governance decisions. Moreover, advertisers leverage ADX for campaign payments, enjoying reduced fees compared to other payment options.

AdEx

Launched in 2011 by Pixowl, The Sandbox is a blockchain-based virtual world allowing users to create, build, buy and sell digital assets in the form of a game. By combining the powers of decentralized autonomous organizations (DAO) and non-fungible tokens (NFTs), the Sandbox creates a decentralized platform for a thriving gaming community.

According to the official whitepaper, the Sandbox platform’s main mission is to introduce blockchain technology in mainstream gaming successfully. The platform focuses on facilitating a creative “play-to-earn” model, which allows users to be both creators and gamers simultaneously. The Sandbox employs the powers of blockchain technology by introducing the SAND utility token, which facilitates transactions on the platform.