Radix ราคา 

XRD

Radix ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย CTO อย่าง Dan Hughes ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบัญชีแบบแยกประเภทที่ทดลองใช้บิทคอยน์ในปี 2011 และเริ่มทำงานเกี่ยวกับโซลูชันการปรับขนาดในปี 2013 ในขั้นต้น Hughes ได้ทดลองกับโซลูชันการปรับขนาดหลายตัว เช่น DAG และ Channel Asynchronous State Trees และในที่สุดก็ตัดสินใจทำงานกับโครงสร้างข้อมูลที่เรียกว่า Tempo for Radix

ผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาคือ CEO อย่าง Piers Ridyard ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ โดยเขามีประวัติการทำงานในอุตสาหกรรมบล็อคเชน คริปโต และบริการทางการเงินมาก่อน ทีมผู้นำยังประกอบด้วย Russell Harvey อดีตผู้บริหารของ Microsoft และ Kaiser Permanente และ Adam Simmons ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลที่ทำงานให้กับ Verasity มาก่อน

โครงการนี้ยังได้รับเงินสนับสนุนจำนวนถึง 6 ล้านดอลลาร์จากการสนับสนุนในรอบเมล็ดพันธุ์ทั้งสองรอบ

Radix ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการปรับปรุงพัฒนาอย่างมุ่งมั่นในหลากหลายประการเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ประการแรก มันให้คำมั่นว่า จะเพิ่มผลผลิตของนักพัฒนา DeFi ให้พุ่งสูงขึ้น Radix อ้างว่านักพัฒนา DeFi ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรักษาความปลอดภัยของโค้ด แทนที่จะเน้นไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม การหาประโยชน์ในจำนวนหลายล้านดอลลาร์ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา และยังคงมีอยู่ในการติดต่อแบบวันต่อวันของ DeFi Radix เสนอภาษาการเขียนโปรแกรมใหม่ที่เรียกว่า Scrypto ซึ่งสร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์สำหรับ DeFi และช่วยให้สามารถพัฒนา DApps ที่เน้น DeFi ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

นอกจากนี้ ประสิทธิภาพในการดำเนินการของโปรโตคอล DeFi ยังคาดการณ์ว่าจะเติบโตไปอย่างมากด้วย Radix Engine ที่จะมาแทนที่ Ethereum Virtual Machine Radix Engine เวอร์ชันแรกเปิดตัวหลังจาก Radix mainnet ได้เริ่มใช้งานเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2021 โดยเวอร์ชัน 2 มีกำหนดจะเปิดตัวในปี 2022

Radix Engine จะสนับสนุนความสามารถในการปรับขนาดของบล็อคเชนร่วมกับกลไกฉันทามติของ Cerberus Radix โต้แย้งว่าแม้แต่โซลูชันการปรับขนาดเช่น Ethereum 2.0 หรือ Solana ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ก็ยังไม่สามารถรับมือกับปริมาณข้อมูลที่ระบบการเงินทั่วโลกดำเนินการในทุกวัน หาก DeFi กลายเป็นกระแสหลัก บล็อคเชนจะต้องทำการส่งธุรกรรมหลายล้านรายการต่อวินาที ซึ่ง Cerberus ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้สิ่งนี้เป็นจริงได้ด้วยโซลูชัน shardedที่ผสานรวมอย่างเต็มรูปแบบซึ่งจะเปิดตัวในปี 2023

เลเยอร์ของแอปพลิเคชันที่กำหนดได้เองได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งมอบงานที่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นสำหรับนักพัฒนา DeFi และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามบัญชีแยกประเภทที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ ในเลเยอร์ฉันทามติยังรับประกันความสามารถในการปรับขนาดเชิงเส้นซึ่งสามารถปรับขนาดได้อย่างราบรื่นสำหรับโหนดหลายพันโหนดและผู้ใช้หลายพันล้านคน หากส่งมอบได้ตามที่สัญญาไว้ Radix จะเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน DeFi เพื่อการทำงานร่วมกันโดยไม่ทำให้แอปพลิเคชันหรือธุรกรรมอื่นหยุดชะงักลงขณะใช้งานพร้อมกัน Radix ก่อตั้ง GoodFi ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อนำผู้ใช้งานจำนวนกว่า 100 ล้านคนเข้าสู่ DeFi ภายในปี 2025 ซึ่งมีสมาชิกที่มีชื่อเสียงจำนวนอยู่แล้ว เช่น Aave, Sushiswap, Chainlink, mStable, Terra และอื่น ๆ

ลองดู Terra (LUNA) — บล็อคเชนเลเยอร์ 1 ที่ใช้งานโทเค็น LUNA

ลองดู Polkadot (DOT) — บล็อคเชนที่ทำหน้าที่เป็นพื้นฐานสำหรับบล็อคเชนอื่น ๆ

อ่านราย ละเอียดเชิงลึกของเราเกี่ยวกับโซลูชันเลเยอร์ 2

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับคริปโตและข้อมูลเชิงลึกด้านการซื้อขายล่าสุดด้วย CoinMarketCap blog

ในขั้นต้น XRD จะเป็นโทเค็น ERC-20 ที่ใช้สำหรับ staking การโหวต และการชำระค่าธรรมเนียมของธุรกรรมเครือข่ายก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสถานะพื้นฐานในขั้นสุดท้าย อุปทานทั้งหมด ของ XRD อยู่ที่ 24 พันล้าน โดยมีการกระจายโทเค็นดังนี้

• โทเค็น 12 พันล้าน จัดสรรเพื่อการกำเนิดของเครือข่าย Radix Public โทเค็น 9.6 พันล้านโทเค็นเหล่านี้ถูกปลดล็อคและกลายเป็นส่วนหนึ่งของอุปทานหมุนเวียน ส่วนอีก 2.4 พันล้านถูกล็อคอย่างไม่มีกำหนดในส่วนของการสำรอง stable coin
• โปรโตคอลของ Radix กำลังดำเนินการ minted โทเค็นในจำนวน 12 โทเค็นเพื่อใช้ในภารกิจการให้รางวัลแก่ผู้เดิมพันและผู้ตรวจสอบความถูกต้องในช่วงระยะเวลาประมาณ 40 ปี การปลดปล่อยของเครือข่ายเริ่มต้นด้วยการกำเนิดของเครือข่าย Radix Public ในเดือนกรกฎาคม 2021

จากโทเค็นในจำนวน 12 พันล้านในตอนเริ่มต้น จะมีการแจกจ่ายโทเค็นจำนวน 4.41 พันล้านในรูปแบบของ ERC-20 โดยแบ่งออกได้ดังนี้

• การสนับสนุนชุมชน (3 พันล้าน) โดยแจกจ่ายให้กับผู้ซื้อในการขายโทเค็นที่เริ่มจากปี 2013 ถึง 2017
• การขายโทเค็น (642 ล้าน)
• มูลนิธิ Radix (568 ล้าน) โดยมี Radix Tokens Ltd. ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของมูลนิธิ Radix จะได้รับไปในจำนวน 200 ล้าน XRD ในจำนวน 10 ล้าน ERC-20 จะถูกจัดสรรเพื่อการตลาด โดยการปล่อยออกจะขึ้นอยู่กับการให้สิทธิ์
• เพื่อสร้างแรงจูงใจสำหรับนักพัฒนา (100 ล้าน)
• เพื่อเป็นเงินอุดหนุนสำหรับเครือข่าย (100 ล้าน)

Radix ใช้การแบ่งส่วนสำหรับกลไกฉันทามติของ Cerberus เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุดตามที่สัญญาไว้

แทนที่จะใช้คำสั่งซื้อจากทั่วโลก Cerberus ใช้การเรียงลำดับธุรกรรมบางส่วน โดยจัดสรรธุรกรรมให้กับ shards ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น วิธีนี้ช่วยให้ Cerberus สามารถใช้ Byzantine Fault Tolerance ที่จะช่วยให้การค้นหาฉันทามติสามขั้นตอนนั้นสามารถทำงานแบบคู่ขนานกัน ซึ่งจะช่วยเร่งกระบวนการให้รวดเร็วขึ้น ช่วยให้ Radix เข้าถึงจุดสิ้นสุดในทันทีที่จำเป็นสำหรับการประมวลผลธุรกรรมหลายแสนรายการต่อวินาทีได้อย่างราบรื่น

XRD สามารถหาซื้อได้บน Bitfinex

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเริ่มต้นซื้อคริปโตเคอร์เรนซีคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน คู่มือของเรา

นี่คือบทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ:

• คริปโตฟอเซ็ต (Crypto Faucet) คืออะไร?
• บัตรเดบิตคริปโตคืออะไร?
• Web 3.0 คืออะไร?
• การฟาร์มผลตอบแทนคืออะไร?
• การให้ยืมคริปโต (Crypto Lending) คืออะไร?
• Metaverse คืออะไร
• Fan Token คืออะไร
• Newbie Catchup: AZ ของ NFTs
• Automated Market Makers คืออะไร
• Crypto ETF คืออะไร