สรุปย่อ
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 SDK ของ Aptos ที่เขียนด้วย TypeScript ได้รับการอัปเกรดด้านความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานอย่างสำคัญ โดยเน้นไปที่การจัดการกุญแจและความยืดหยุ่นในการทำธุรกรรม
- ปรับปรุงระบบ AuthKey (ยังไม่ปล่อยใช้งาน) – เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนกุญแจด้วยวิธีที่ตรวจสอบได้และไม่ได้ตรวจสอบ
- ธุรกรรมแบบไม่เรียงลำดับ (มิถุนายน 2025) – รองรับการทำธุรกรรมที่ไม่ต้องเรียงตามลำดับโดยใช้ nonce แทนหมายเลขลำดับ
- API สำหรับการสร้างบัญชี (มิถุนายน 2025) – ทำให้การจัดการบัญชีที่มีหลายกุญแจและการเปลี่ยนกุญแจง่ายขึ้น
รายละเอียดเชิงลึก
1. ปรับปรุงระบบ AuthKey (ยังไม่ปล่อยใช้งาน)
ภาพรวม: ปรับโครงสร้างการเปลี่ยนกุญแจเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับยังคงรองรับระบบเก่า
การอัปเดตนี้แบ่งฟังก์ชัน rotateAuthKey ออกเป็นสองแบบ:
- การเปลี่ยนกุญแจแบบตรวจสอบได้ (เป็นค่าดีฟอลต์ใหม่) ต้องผ่านการตรวจสอบด้วย Ed25519/MultiEd25519
- การเปลี่ยนกุญแจแบบไม่ได้ตรวจสอบ (rotateAuthKeyUnverified) สำหรับระบบเก่าที่ต้องการอัปเกรด
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นประโยชน์ต่อ APT เพราะช่วยลดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีเพื่อแฮ็กบัญชี ในขณะเดียวกันก็ยังรองรับแอปพลิเคชันเก่าในช่วงการย้ายระบบ ทำให้นักพัฒนาสามารถควบคุมความปลอดภัยและความเข้ากันได้อย่างละเอียด
(ที่มา)
2. ธุรกรรมแบบไม่เรียงลำดับ (มิถุนายน 2025)
ภาพรวม: เพิ่มการทำธุรกรรมโดยใช้ nonce แทนหมายเลขลำดับบัญชี ทำให้ธุรกรรมไม่จำเป็นต้องทำตามลำดับ
การเปลี่ยนแปลงสำคัญ:
- รองรับการสร้างธุรกรรมหลายรายการพร้อมกันได้
- ทำให้สามารถรวมหลายธุรกรรมในชุดเดียวโดยไม่ต้องเรียงลำดับ
- ลดความเสี่ยงจากการถูกแทรกแซงก่อนทำธุรกรรมในระบบการเงินแบบกระจาย (DeFi)
ผลกระทบต่อ APT ในระยะสั้นเป็นกลาง (ต้องมีการปรับแอปพลิเคชัน) แต่ในระยะยาวเป็นบวก เพราะช่วยให้สร้างกระบวนการทำธุรกรรมที่ซับซ้อนได้ เหมาะกับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น dark pools
3. API สำหรับการสร้างบัญชี (มิถุนายน 2025)
ภาพรวม: รวมการจัดการที่อยู่บัญชีให้ครอบคลุมทั้งการเปลี่ยนกุญแจและการตั้งค่าหลายลายเซ็น
ฟังก์ชันใหม่ เช่น getAccountsForPublicKey และ deriveOwnedAccountsFromSigner ช่วยให้กระเป๋าเงิน:
- ติดตามที่อยู่บัญชีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกุญแจที่เปลี่ยนไปในอดีต
- ตรวจจับบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวิธีการยืนยันตัวตนต่าง ๆ อัตโนมัติ
สิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อ APT เพราะช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ลดความสับสนและความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการเปลี่ยนกุญแจ และทำให้การกู้คืนบัญชีข้ามอุปกรณ์ง่ายขึ้น
สรุป
การเปลี่ยนแปลงโค้ดล่าสุดของ Aptos เน้นการจัดการบัญชีที่ปลอดภัย (การอัปเดต AuthKey) ความยืดหยุ่นในการทำธุรกรรมระดับองค์กร (ธุรกรรมแบบไม่เรียงลำดับ) และการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (API การสร้างบัญชี) รวมกันทำให้ APT เป็นบล็อกเชนที่สมดุลระหว่างการควบคุมของนักพัฒนากับความง่ายในการใช้งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แล้วการอัปเกรด SDK เหล่านี้จะส่งผลอย่างไรต่อการรวม Aave v3 บน Aptos ที่กำลังจะมาถึง?