## อะไรคือ Prosper?

Prosper เป็นแพลตฟอร์มที่มีความซับซ้อนซึ่งดำเนินการในโลกของสกุลเงินดิจิทัล โดยเสนอตลาดการทำนายผลข้ามเชนและบริการป้องกันความเสี่ยง มันใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อส่งเสริมการทำนายทางการเงินและโอกาสในการป้องกันความเสี่ยงที่ไม่ต้องมีการเก็บรักษาโดยตรง ปลอดภัย และกระจายอำนาจไปยังเครือข่ายบล็อกเชนต่างๆ วิธีการนวัตกรรมนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมตลาดการทำนายโดยไม่ต้องมีหน่วยงานกลาง ซึ่งเพิ่มความโปร่งใสและความไว้วางใจ

คุณสมบัติหลักของ Prosper คือการรวมกับ Chainlink oracle ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่รับประกันว่าแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงฟีดราคาที่เชื่อถือได้และแม่นยำ สิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับการรักษาความสมบูรณ์ของตลาดการทำนาย เนื่องจากข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้ในการตัดสินใจที่มีข้อมูลเพียงพอ

แพลตฟอร์มรองรับโมเดลความสามารถในการจัดหาและถอนสภาพคล่องแบบไบนารี ซึ่งทำให้กระบวนการให้และถอนสภาพคล่องง่ายขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ใช้ นอกจากนี้ Prosper ยังเน้นการรวมสภาพคล่องบนเชน ซึ่งช่วยให้การใช้ทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้นและราคาที่ดีกว่าสำหรับผู้เข้าร่วม การสนับสนุนข้ามเชนขยายขอบเขตของแพลตฟอร์ม ทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับระบบนิเวศบล็อกเชนหลายระบบได้อย่างไม่มีรอยต่อ

Prosper ยังนำเสนอคุณสมบัติที่เน้น

### Prosper มีความปลอดภัยอย่างไร?

Prosper ใช้กรอบการทำงานด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของแพลตฟอร์มของตน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในโลกของสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง กรอบการทำงานนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะ, การให้สินเชื่อมีหลักประกันมากกว่าจำนวนเงินกู้, และการปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมาย, ซึ่งได้รับการเสริมด้วยมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง

ใจกลางของกลยุทธ์ความปลอดภัยของ Prosper คือสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสัญญาที่ดำเนินการโดยอัตโนมัติโดยมีเงื่อนไขของข้อตกลงถูกเขียนไว้โดยตรงในบรรทัดของโค้ด การใช้สัญญาอัจฉริยะช่วยลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงและรับประกันว่าการทำธุรกรรมทั้งหมดบนแพลตฟอร์มเป็นไปอย่างโปร่งใสและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

เพื่อเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น, Prosper กำหนดให้ทุกตำแหน่งการกู้ยืมต้องมีหลักประกันมากกว่า นั่นหมายความว่าผู้กู้ต้องฝากมูลค่าที่สูงกว่าจำนวนเงินกู้ที่พวกเขากำลังกู้ออกมา เพื่อให้มีเสถียรภาพต่อความผันผวนของตลาดและลดความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ การมีหลักประกันมากกว่านี้เป็นเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่สำคัญในพื้นที่การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)

Prosper ยังเน้นความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมาย ผู้ใช้งานได้รับการสนับสนุนให้เข้าใจและปฏิบั

### Prosper จะถูกใช้อย่างไร?

Prosper เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเสนอตลาดการทำนายแบบข้ามเชนและแพลตฟอร์มการป้องกันความเสี่ยง โดยเน้นนวัตกรรมการรวมสภาพคล่องบนเชน ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเสนอและการลงคะแนนเสียงต่อไอเดียที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อ District และคลังเงินของมัน โดยเน้นการตัดสินใจแบบกระจายอำนาจและการกำกับดูแลโดยชุมชน

โทเค็นยูทิลิตี้ของ Prosper ที่รู้จักกันในชื่อ $PROS มีหน้าที่สำคัญหลายอย่างภายในระบบนิเวศ โดยหลักๆ ใช้สำหรับการกำกับดูแล ทำให้ผู้ถือโทเค็นสามารถเข้าร่วมกระบวนการตัดสินใจที่กำหนดอนาคตของแพลตฟอร์ม วิธีการนี้รับประกันว่าเสียงของชุมชนได้รับการฟังและแพลตฟอร์มพัฒนาไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ทุกคน

นอกจากนี้ $PROS ยังถูกใช้สำหรับการสร้างสระการทำนายแบบกำหนดเอง ฟีเจอร์ที่เพิ่มความยืดหยุ่นและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในแพลตฟอร์ม Prosper ส่งเสริมประสบการณ์ที่มีการโต้ตอบและส่วนบุคคลมากขึ้น โดยการให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งตลาดการทำนายตามความชอบหรือข้อมูลเชิงลึกของตนเอง

แพลตฟอร์มยังรวมเทคโนโลยี Oracle ของ Chainlink เพื่อรับประกันความแม่นยำของฟีดราคา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความยุติธรรมและความน่าเชื่อถือในตลาดการทำนาย Prosper แสดงถึงความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มความซื่อสัตย์และความไว้วาง

### มีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างสำหรับ Prosper?

Prosper ได้ประสบกับหลายเหตุการณ์สำคัญที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาและการได้รับการยอมรับในภาคส่วนของสกุลเงินดิจิทัลและบล็อกเชน หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัว TOPOS TDI ที่งาน Singapore FinTech Festival ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ งานนี้ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Prosper ในการนวัตกรรมและบทบาทของมันในภูมิทัศน์เทคโนโลยีการเงินที่กำลังพัฒนา

อีกเหตุการณ์ที่น่าสนใจคือการประกาศโครงการ Guardian โดย Monetary Authority of Singapore โครงการนี้ซึ่ง Prosper เป็นส่วนหนึ่งของมัน ได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของแพลตฟอร์มในโครงการกำกับดูแลและพัฒนาที่มุ่งเน้นการกำหนดอนาคตของการเงินและเทคโนโลยีบล็อกเชน

นอกจากนี้ การเปิดรายชื่อรอสำหรับผู้ที่สนใจถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเติบโตของ Prosper มันแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นและความต้องการสำหรับบริการของมัน ซึ่งรวมถึงตลาดการทำนายและบริการป้องกันความเสี่ยง การเคลื่อนไหวนี้ยังช่วยให้ Prosper สามารถประเมินความสนใจและรวบรวมชุมชนของผู้ใช้ที่พร้อมจะมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มเมื่อเปิดตัว

การใช้ Chainlink oracle ของ Prosper เพื่อให้แน่ใจว่ามีการป้อนข้อมูลราคาที่แม่นยำเป็นหลักฐานของการมุ่งมั่นในการให้บริการที่เชื่อถือได้และน่าเชื่อถือ คุณสมบัติของแพลตฟอร์ม เช่น ประกันการทำนาย รูปแบบความเหลวแบบไบนารี การรวมความเหลวบนเชน การสนับสนุนข้ามเชน การสนับสนุนเงินตรา สระว่ายน้ำที่กำหนดเอง การกำกับดูแลโด

### มีเหรียญ Prosper PROS จำนวนเท่าไหร่ที่อยู่ในการหมุนเวียน?

Prosper เป็นแพลตฟอร์มตลาดการทำนายและการป้องกันความเสี่ยงข้ามเชนที่ได้ทำการพัฒนาอย่างมากในพื้นที่บล็อกเชน โดยการนำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบนิเวศตลาดการทำนาย แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการรวมสภาพคล่องบนเชน, สนับสนุนการดำเนินงานข้ามเชน และให้บริการและเครื่องมือต่างๆ แก่ผู้ใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ตลาดการทำนายของพวกเขา หนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ Prosper ใช้คือ oracle ของ Chainlink ซึ่งรับประกันว่าแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงฟีดราคาที่แม่นยำและเชื่อถือได้ที่สุด

แพลตฟอร์ม Prosper มีคุณสมบัติหลากหลาย รวมถึงประกันการทำนาย, โมเดลสภาพคล่องแบบไบนารี, การรวมสภาพคล่องบนเชน, การสนับสนุนข้ามเชน, การสนับสนุนเงินฟิอัต, สระว่ายน้ำที่กำหนดเอง, การกำกับดูแลแบบ DAO และการขุดการทำนาย คุณสมบัติเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีแพลตฟอร์มตลาดการทำนายที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการและความชอบที่หลากหลาย

โทเค็น $PROS, สกุลเงินคริปโตเนทีฟของแพลตฟอร์ม Prosper, มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยใช้เป็นโทเค็นประกันการทำนาย, โทเค็นการกำกับดูแล DAO และโทเค็นค่าคอมมิชชั่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้สำหรับการสมัครสมาชิกพรีเมียมบนแพลตฟอร์ม ความหลากหลายในการใช้งานของโทเค็น $PROS ยืนยันถึงควา



Prosper is a cross-chain prediction market and hedging platform that is pioneering the technology of on-chain liquidity aggregation. 

Prosper uses Chainlink oracle to provide the most accurate price feeds. Platform features include:


Prediction insurance.

Binary liquidity model;

On-chain liquidity aggregation and crosschain support;

Fiat support;

Custom pools;

DAO governance; 

Prediction mining;

and more!

$PROS token is being used as:

Prediction insurance token;

DAO governance token;

Commission token;

Premium/subscription token;

Prosper

Trust Wallet

MetaMask

Binance Chain Wallet

Ethereum

Shiba Inu

Chainlink

Uniswap

Pepe

MILC Platform

Deeper Network

Cross The Ages

Augur

Aryacoin

Push Protocol

Nestree

Big Data Protocol

EPIK Prime

TypeAI

Monkas

Arbius

BABYTRUMP

RAYN

QANplatform

dForce

Viberate

StaFi

BurgerCities aims to create a unified and standardized metaverse world of Web3 via integrating DeFi, NFT to the wider Metaverse.
In this world, users could carry out daily events such as social, gaming, etc. Meanwhile, they could experience DeFi and NFT functions with their own avatars such as trading, staking, NFT exhibitions or Gamefi, etc.

BurgerCities

Launched in 2020, Dego Finance is a decentralized ecosystem that offers a diverse combination of non-fungible token (NFT) and decentralized finance (DeFi) tools. It is an independent, open NFT ecosystem.

To learn more about this project, check out our deep dive of Dego Finance.

Any user is allowed to launch an NFT and initiate mining, auctions and trading, covering the entire lifecycle of the product. Dego’s NFT protocol is a cross-chain, second-layer infrastructure for Blockchain projects that can be leveraged for user acquisition and token distribution.

Dego uses a modular combination design concept that combines various elements of a product to form subsystems with specific functions.

Dego Finance

Frontier is a chain-agnostic decentralized finance (DeFi) aggregator. The project aims to add DeFi support to several blockchains, including BandChain (BAND), Ethereum (ETH), Binance Smart Chain (BSC) and Harmony (ONE).

Frontier’s applications allow users to manage staking, DeFi positions, best-rate asset swapping, liquidity mining, and collateralized debt position (CDP) creation and monitoring.

In a nutshell, Frontier is bringing the core functions of DeFi to users, regardless of the platforms they use.

Frontier began development in April 2019, and the beta platform launched in November 2019.

Frontier

ForTube, previously known as the Force Protocol, describes itself as a suite of distributed crypto-finance service protocols that runs on an open-source blockchain. Its main aim is to offer crypto-finance solutions to developers through its software development kit (SDK) and application programming interfaces (APIs) for decentralized application (DApp) development.

The platform offers solutions for cross-platform asset transactions, cross-chain communications, crypto-asset-backed stablecoin insurance, token board insurance, and on-chain payments. The Force Protocol project is a decentralized protocol layer that is developed and managed by the Force Protocol Foundation Ltd.

ForTube launched its decentralized finance (DeFi) service on the Binance Smart Chain (BSC) in September 2020.

ForTube offers many advantages, including flexible support of globally popular cryptocurrencies that provide higher yield combinations and an upgraded algorithm and ledger structure that significantly reduces gas costs. It also has a robust technical framework with more secure smart contracts.

ForTube

Vite has built a Directed Acyclic Graph (DAG) based smart-contract platform, with a Snapshot Chain structure to facilitate zero-fee transactions and optimize transaction speed, reliability, and security. The Snapshot Chain of Vite utilizes Hierarchical Delegated Proof of Stake (“HDPoS”) to achieve network consensus, while supernodes take only staking rewards and no transaction fees. Vite virtual machine maintains compatibility with EVM, and utilizes asynchronous smart contract language, Solidity++.

The VITE token is the currency for simple token transactions and smart-contract executions on the Vite network, with users staking VITE for transaction quota instead of consuming gas. VITE can also be used to vote for Snapshot Block Producers (aka supernodes). In addition, a VITE staker with unused transaction quota can lease such quota to dApps in exchange for their tokens. For instance, users can stake VITE in exchange of ViteX’s native decentralized exchange token, VX.

Vite’s current products include a decentralized exchange (ViteX), a multi-purpose wallet application (Vite App), payments (VitePay), and government/enterprise blockchain applications (VitePlus):

ViteX is a decentralized exchange with on-chain orderbook and matching engine, and supports currently 20+ digital assets.

Vite App is a mobile application that allows trading (ViteX), asset management (wallet), dapps (e.g Vite-based games) in one place.

VitePay is a fast and feeless payment solution, currently available to use in Singapore’s Ce La Vi Sky Bar and taxi services under the Midwest Global network - Users can pay for merchants with Vite wallet, who in turn receive payment with zero fees with near-instant settlement. VitePay is also integrated with the e-commerce platform OpenCart, and one can utilize VitePay at the official Vite store.

VitePlus is a Vite-based enterprise blockchain solution for governments and enterprises. Vite has developed a pilot app, SyraCoin, for the Syracuse government, allowing city housing fund donors to receive blockchain-based coupons that are redeemable for goods and services within city bounds.

VITE

C.R.E.A.M Finance is a decentralized  DeFi lending protocol for individuals, institutions and protocols to access financial services. Part of the yearn.finance ecosystem, C.R.E.A.M. Finance is a permissionless, open source and blockchain agnostic protocol serving users on Ethereum, Binance Smart Chain Polygon and Fantom.

Users who are passively holding Ether or wBTC can deposit their assets on C.R.E.A.M. to earn yield, similar to a traditional savings account. For more information visit https://app.cream.finance/.

The C.R.E.A.M. Finance protocol was created as a Compound Finance fork.

C.R.E.A.M Finance is open-source, permissionless, blockchain-agnostic and offers yield farming rewards to its users in order to inclusively develop its network.

The project (which stands for Crypto Runs Everything Around Me) was launched unexpectedly on the Ethereum network on Aug. 3, 2020 through the YOLO liquidity pool. In September 2020 it went live on the Binance Smart Chain (BSC).

The CREAM token allows users to lend, borrow, stake assets and help govern the network, allowing them to vote on assets to support or delist.

Cream Finance

Bella Protocol is a platform that provides a suite of DeFi products designed to make crypto banking simpler and more accessible. The protocol aims to create a better user experience by eliminating the high fee and slow transaction issues that can affect some blockchain platforms — while simultaneously improving the user experience through its simplified DeFi smart portal.

Bella's smart pool feature allows users to access the best yields available in the DeFi market, while benefiting from nearly zero gas fees — since these are directly subsidized by the platform.

The project launched in September 2020 as the first project distributed via Binance’s Launchpool platform, and has secured investments from several prominent firms, including Arrington XRP Capital and Ledger Capital.

The protocol was built by the ARPA team, a blockchain-based layer 2 solution for privacy-preserving computation. The BEL token is an essential component of the Bella Protocol ecosystem and serves as both a reward token that allows holders to participate in the governance of the platform.

BEL can be used to farm fee rewards from the network, get exclusive discounts on Bella protocol products (such as its robo-advisor tool), and for earning staking rewards.

Bella Protocol

Tranchess Protocol is the brainchild of Co-Founder Danny Chong and Team. The concept was incepted in 2020 with a team across diverse experiences and roles in tech firms such as Google, Facebook, Microsoft to Investment Banks such as Morgan Stanley, UBS and BNP Paribas.

Our tech team is particularly experienced with cyber security in trading and DeFi protocols, their knowledge in smart contract coding is additive to the maintenance and upgrades in years to come.

Danny himself had worked at both BNP Paribas and Societe Generale, holding positions across his career from trading, sales and management regionally in FICC space.

It is the team’s vision to empower users of DeFi with Omni Asset Management capabilities and contributing to the paradigm shift from Traditional Finance to DeFi. And in time, to offer a full product suite in Asset Management Protocols, tailored for DeFi users across risk capacities and appetites.

Tranchess

BarnBridge, founded in 2019, is a protocol for tokenizing risks. It was launched in September 2020. BarnBridge is a sort of decentralized finance (DeFi) lego for creating tradeable tokens that expose a consumer to market volatility. As of March 2021, the platform is still in an early stage of launch.

To learn more about this project, check out our deep dive of Quant.

BarnBridge is a project that expands the functionality of DeFi to make it more flexible and efficient. By tokenizing market fluctuations and exposure to risks, it can reduce volatility for conservative investors or increase it for daytraders. BarnBridge enables traditional risk management tools and fixed income instruments on the DeFi market. The main focus is dividing cryptocurrency risks into tranches so market participants, depending on their risk profile, can invest in different products or assets.

BarnBridge

Aergo describes itself as an open-source enterprise blockchain platform optimized for hybrid deployments, which consist of both permissioned and permissionless blockchain architectures. It includes support for SQL allowing for easy data handling and familiar smart contract programming for developers.

The platform is built and utilized by Blocko, the Samsung-backed South Korean blockchain technology company that, according to Korean media sources, has deployed production blockchain solutions for large-scale clients including Lotte Card, Shinhan Bank, Korea Exchange, Hyundai Motors, and more.

Aergo

Kava Lend is a decentralized money market built on the Kava Platform that enables the lending and borrowing of cross-chain assets. Kava Lend supports supply-side deposits for BTC, XRP, BNB, BUSD, and USDX. The platform will allow overcollateralized borrowing for supported assets.

Kava Lend

Ethernity Chain

pNetwork

AirSwap

Unifi Protocol DAO

DIA (Decentralised Information Asset) is an open-source oracle platform that enables market actors to source, supply and share trustable data. DIA aims to be an ecosystem for open financial data in a financial smart contract ecosystem, to bring together data analysts, data providers and data users. In general, DIA provides a reliable and verifiable bridge between off-chain data from various sources and on-chain smart contracts that can be used to build a variety of financial DApps.

DIA is the governance token of the platform. It is currently based on ERC-20Ethereum protocol.

The project was founded in 2018, while the token supply was made available to the public during the bonding curve sale from Aug. 3 through Aug. 17, 2020, where 10.2 million tokens were sold.