## PhotoChromic คืออะไร?

PhotoChromic เป็นโครงการนวัตกรรมที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อปฏิวัติวิธีการจัดการและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลประจำตัวในโลกดิจิทัล โดยพื้นฐานแล้ว PhotoChromic ใช้โทเค็นที่ไม่ซ้ำกัน (NFTs) เพื่อสร้างรูปแบบใหม่สำหรับการตรวจสอบและจัดการข้อมูลประจำตัว ทำให้ข้อมูลประจำตัวสามารถโปรแกรมได้ ตรวจสอบได้ มีที่อยู่ทั่วไป และรักษาความปลอดภัยได้ดิจิทัล วิธีการนี้มุ่งหวังที่จะให้บุคคลมีการควบคุมข้อมูลประจำตัวส่วนบุคคลอย่างไม่เคยมีมาก่อน รับประกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการโต้ตอบออนไลน์

โครงการดำเนินการบนบล็อกเชน Ethereum และขับเคลื่อนโดยโทเค็น ERC-20, $PHCR การเลือกใช้บล็อกเชนนี้เป็นกลยุทธ์ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและปลอดภัยของ Ethereum เพื่อรับประกันความสมบูรณ์และความเชื่อถือได้ของโซลูชันการจัดการข้อมูลประจำตัวที่ PhotoChromic ให้บริการ โทเค็น ERC-20 ไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำธุรกรรมภายในระบบนิเวศ PhotoChromic เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการกำกับดูแลและประโยชน์ของโครงการ

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ PhotoChromic คือการใช้เทคโนโลยีเลนส์โฟโตครอมิกอย่างสร้างสรรค์ แม้ว่าจะกล่าวถึงในบริบทของแว่นตาเป็นหลัก แต่เทคโนโลยีนี้เป็นตัวแทนของวิสัยทัศน์ของโครงการสำหรับโซลูชันข้อมูลประจำตัวที่ปรับตัวและตอบสนองได้ ด้ว

### PhotoChromic มีการรักษาความปลอดภัยอย่างไร?

PhotoChromic ใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและนำเสนอวิธีการใหม่ในการจัดการกับตัวตนดิจิทัล โดยพื้นฐานแล้ว มันใช้โทเค็น ERC-20 ที่รู้จักกันในชื่อ $PHCR ซึ่งทำงานบนบล็อกเชน Ethereum การเลือกใช้บล็อกเชนนี้เป็นกลยุทธ์ที่ได้ประโยชน์จากการรับรู้อย่างกว้างขวางของ Ethereum เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย ฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะ และลักษณะการกระจายอำนาจ

นอกเหนือจากพื้นฐานบล็อกเชน PhotoChromic ยังนำเสนอชั้นความปลอดภัยใหม่ผ่านการตรวจสอบทางชีวมิติ วิธีนี้ช่วยให้แน่ใจว่าตัวตนดิจิทัลถูกเชื่อมโยงกับเจ้าของที่ถูกต้องอย่างปลอดภัย ทำให้การขโมยตัวตนยากขึ้นอย่างมาก โดยการผสานข้อมูลชีวมิติกับโทเค็นที่ไม่ซ้ำกัน (NFTs) PhotoChromic สร้างโมเดลการจัดการตัวตนแบบ Self-Sovereign Identity (SSI) ที่มีการจัดการแบบไบโอมิเมติก โมเดลนี้ทำให้ผู้ใช้มีอำนาจเต็มที่ในการควบคุมและเป็นเจ้าของตัวตนดิจิทัลของตนเอง ซึ่งต่างจากวิธีการตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมที่พึ่งพาอำนาจกลาง

การรวมกันของบล็อกเชน Ethereum กับการตรวจสอบทางชีวมิติและเทคโนโลยี NFT ทำให้ PhotoChromic เป็นโซลูชันนำหน้าในโลกของตัวตนดิจิทัล มันตอบสนองความต้องการอย่างเร่งด่วนสำหรับระบบตัวตนที่ปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ และผู้ใช้สามารถควบคุมได้ในยุคดิจิทัล โดยการทำให้ตัวตนสามารถโปรแกรม

### PhotoChromic จะถูกใช้อย่างไร?

PhotoChromic นำเสนอวิธีการใหม่ในการจัดการกับตัวตนดิจิทัลผ่านการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน, NFTs และการตรวจสอบด้วยข้อมูลชีวมิติ แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมพลังให้กับบุคคลโดยให้พวกเขามีอำนาจควบคุมและเป็นเจ้าของข้อมูลตัวตนส่วนบุคคลของตนเองอย่างเต็มที่ โดยการใช้ประโยชน์จากความไม่เปลี่ยนแปลงและความปลอดภัยของบล็อกเชน รวมถึงความเป็นเอกลักษณ์ของ NFTs, PhotoChromic สร้างระบบตัวตนที่เป็นอิสระ (SSI) ระบบนี้ช่วยให้ตัวตนของผู้ใช้สามารถเขียนโปรแกรมได้, สามารถตรวจสอบได้, มีที่อยู่ทั่วไป, และได้รับการป้องกันดิจิทัล

การรวมการตรวจสอบด้วยข้อมูลชีวมิติเพิ่มชั้นความปลอดภัยและความแท้จริงเพิ่มเติมให้กับกระบวนการจัดการตัวตน นี้ช่วยให้แน่ใจว่าตัวตนดิจิทัลถูกผูกไว้กับบุคคลในโลกแห่งความจริง ลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงและการปลอมตัว การใช้โทเค็น ERC-20 ซึ่งทำงานบนบล็อกเชน Ethereum ช่วยให้การทำธุรกรรมและการโต้ตอบต่างๆ ภายในระบบนิเวศ PhotoChromic เป็นไปได้ ซึ่งอาจรวมถึงกิจกรรมเช่นการตรวจสอบตัวตน, การรักษาข้อมูลส่วนบุคคล, หรือแม้กระทั่งการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยตัวตนที่ได้รับการยืนยัน

เป้าหมายหลักของ PhotoChromic คือการแก้ไขความท้าทายที่บุคคลต้องเผชิญในการจัดการกับตัวตนออนไลน์ของตนในปัจจุบัน ในโลกที่การมีอยู่ในโลกดิจิทัลมีความสำคัญ

### เหตุการณ์สำคัญใดบ้างที่เกิดขึ้นกับ PhotoChromic?

ในบริบทของ PhotoChromic สำคัญที่จะต้องชี้แจงว่า แม้จะไม่มีเหตุการณ์สำคัญที่ถูกเน้นย้ำอย่างชัดเจน แต่โครงการนี้เองก็ถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญภายในพื้นที่ของบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล PhotoChromic นำเสนอวิธีการใหม่ในการจัดการกับตัวตนดิจิทัลผ่านการใช้งานโทเค็นที่ไม่ซ้ำกัน (NFTs) ความคิดริเริ่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสนอวิธีแก้ไขปัญหาการตรวจสอบและการจัดการตัวตนที่แพร่หลายในยุคดิจิทัล

แก่นของข้อเสนอของ PhotoChromic คือการสร้างแบบจำลองการจัดการตัวตนอิสระ (SSI) บนบล็อกเชนที่ได้รับการจัดการโดยการเลียนแบบชีวภาพ แบบจำลองนี้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะของ NFTs เพื่อทำให้ตัวตนดิจิทัลสามารถเขียนโปรแกรมได้ สามารถตรวจสอบได้ มีที่อยู่ทั่วไป และมีความปลอดภัย โดยพื้นฐานแล้ว มันมุ่งหวังที่จะคืนความควบคุมและการเป็นเจ้าของตัวตนส่วนบุคคลให้กับบุคคลนั้น ซึ่งเป็นหลักการที่สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับจิตวิญญาณพื้นฐานของการกระจายอำนาจในชุมชนบล็อกเชน

โครงการนี้ใช้โทเค็น ERC-20 ซึ่งทำงานบนบล็อกเชน Ethereum การเลือกใช้บล็อกเชนนี้เป็นที่น่าสังเกตเนื่องจากการนำไปใช้กว้างขวางและการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานของ NFTs ที่สามารถเขียนโปรแกรมได้

แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์หรือเหตุการณ์สำคัญที่ได้รับการกำหนดไว้ การเปิด



PhotoChromic introduces a unique use case for non-fungible tokens (“NFTs”) by integrating them with user identity, to develop a biomimetically managed model of Self-Sovereign Identity (“SSI”) on the Blockchain. Using NFTs, PhotoChromic aims to make identity programmable, verifiable, universally addressable, and digitally secured. 

Powered by an ERC-20 token, $PHCR, running on the Ethereum blockchain, PhotoChromic addresses the current challenges faced by people the world over, as they pursue ownership over, and the ability to secure, their identity. PhotoChromic gives control and ownership of user identity back to the individual, where it belongs.

PhotoChromic

Trust Wallet

MetaMask

Ethereum

Shiba Inu

Chainlink

Pepe

Uniswap

Gala

Ondo

Maker

Bitget Token

Render

UNUS SED LEO

Worldcoin

Ethena

Quant

Wormhole

Work X

LIF3

OpSec

Paycoin

Phemex Token

OTCBTC Token

Theta (THETA) is a blockchain powered network purpose-built for video streaming. Launched in March 2019, the Theta mainnet operates as a decentralized network in which users share bandwidth and computing resources on a peer-to-peer (P2P) basis. The project is advised by Steve Chen, co-founder of YouTube and Justin Kan, co-founder of Twitch.

Theta features its own native cryptocurrency token, THETA, which performs various governance tasks within the network, and counts Google, Binance, Blockchain ventures, Gumi, Sony Europe and Samsung as Enterprise validators, along with a Guardian network of thousands of community-run guardian nodes.

Developers say that the project aims to shake up the video streaming industry in its current form — centralization, poor infrastructure and high costs mean that end users often end up with a poor experience. Content creators likewise earn less revenue due to the barriers between them and end users.

The Theta team has created a customer-centric business plan for their growing ecosystem of services focused on esports, music, TV, movies, and education. The list of Theta Network partners includes video platforms like Samsung VR, Cinedigm, Shout! Factory, Pandora.tv, Play Labs, and THETA.tv.