สรุปย่อ
โค้ดของ Zilliqa ได้รับการอัปเกรดสำคัญเพื่อปรับปรุงการ staking, ความปลอดภัย และความเข้ากันได้กับ Ethereum
- Mainnet v0.19.0 Hardfork (17 พฤศจิกายน 2025) – ลดระยะเวลาการถอน stake เหลือ 7 วัน และลงโทษ validator ที่ทำงานผิดพลาด
- การย้ายไปยัง Zilliqa 2.0 (23 มิถุนายน 2025) – เปลี่ยนมาใช้ Proof-of-Stake (PoS), เพิ่มความเข้ากันได้กับ EVM และแยก shard แบบโมดูลาร์
- การรวมเครื่องมือ EVM (9 กรกฎาคม 2025) – เปิดใช้งาน MetaMask, Hardhat และการ deploy ด้วย Solidity
รายละเอียดเชิงลึก
1. Mainnet v0.19.0 Hardfork (17 พฤศจิกายน 2025)
ภาพรวม: การอัปเกรดนี้บังคับให้มีระยะเวลาถอน stake (unstaking) เหลือ 7 วัน จากเดิม 14 วัน และเพิ่มระบบลงโทษอัตโนมัติสำหรับ validator ที่ทำให้เครือข่ายล่มหรือทำงานผิดพลาด
validator ต้องอัปเดตโหนดก่อนบล็อกที่ 13,514,400 เพื่อป้องกันปัญหาการทำงาน การอัปเกรดนี้ช่วยให้ผู้ที่ stake มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและช่วยให้ระบบฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเมื่อ validator ล้มเหลว
ความหมาย: เป็นสัญญาณบวกสำหรับ ZIL เพราะระยะเวลาถอน stake ที่สั้นลงช่วยลดความเสี่ยงที่เงินจะถูกล็อกนานเกินไป ขณะเดียวกันกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับ validator ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเครือข่าย (ที่มา)
2. การย้ายไปยัง Zilliqa 2.0 (23 มิถุนายน 2025)
ภาพรวม: โปรโตคอลเปลี่ยนจาก Proof-of-Work (PoW) มาเป็น Proof-of-Stake (PoS) ลดเวลาบล็อกจาก 30 วินาที เหลือ 1.5 วินาที และเพิ่ม “x-shards” ที่สามารถปรับแต่งได้สำหรับการขยายแอปพลิเคชันเฉพาะ
หลังการย้ายระบบ มี ZIL กว่า 2 พันล้านเหรียญถูก stake โดยมี validator ที่ทำงานอยู่ 23 ราย เทียบกับ 6 กลุ่มขุดก่อนอัปเกรด นอกจากนี้ยังลดการใช้พลังงานลงถึง 99%
ความหมาย: เป็นสัญญาณกลางถึงบวก เพราะ PoS ช่วยเพิ่มความยั่งยืน แต่ราคาของ ZIL ลดลง 50% หลังเปิดตัว แสดงให้เห็นว่าตลาดตอบรับในระยะสั้นไม่มาก แม้จะมีประโยชน์ทางเทคนิคในระยะยาว (ที่มา)
3. การรวมเครื่องมือ EVM (9 กรกฎาคม 2025)
ภาพรวม: ความเข้ากันได้เต็มรูปแบบกับ EVM ช่วยให้นักพัฒนาสามารถ deploy smart contract ด้วยเครื่องมือ Ethereum เช่น MetaMask ได้ โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำเพียง “ไม่กี่เซนต์” เทียบกับค่าธรรมเนียม Ethereum ที่สูงกว่า 100 ดอลลาร์
การอัปเกรดยังรองรับการแยก shard แบบโมดูลาร์ ทำให้โปรเจกต์ต่าง ๆ สามารถรันสภาพแวดล้อมเฉพาะตัวได้โดยไม่ทำให้เครือข่ายหลักแออัด
ความหมาย: เป็นสัญญาณบวกสำหรับ ZIL เพราะค่าธรรมเนียมที่ต่ำและความคุ้นเคยกับเครื่องมือ Ethereum อาจดึงดูดนักพัฒนาที่สร้างแอป DeFi หรือ RWA (ที่มา)
สรุป
การอัปเดตล่าสุดของ Zilliqa มุ่งเน้นไปที่การขยายตัว (EVM/x-shards), ความยั่งยืน (PoS) และความยืดหยุ่นสำหรับผู้ stake แม้ว่าตัวชี้วัดการนำไปใช้ เช่น TVL และราคา จะยังไม่เติบโตมากนัก แต่โครงสร้างพื้นฐานตอนนี้รองรับการใช้งานระดับสถาบันได้แล้ว คำถามคือกิจกรรมของนักพัฒนาจะกลับมาคึกคักขึ้นหรือไม่ เมื่อเครื่องมือที่เข้ากันได้กับ Ethereum มีความสมบูรณ์มากขึ้น?