เจาะลึก
1. ความกังวลในตลาดโดยรวม (ผลกระทบเชิงลบ)
ภาพรวม:
การลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดคริปโตโดยรวม โดย Bitcoin (BTC) ร่วงจาก 94,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ ZEC ก็ได้รับผลกระทบตามตลาดเนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เหรียญความเป็นส่วนตัว
ความหมาย:
โดยปกติการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นตลาดคริปโต แต่ข้อความที่เข้มงวดของ Fed ที่บอกว่าจะ “หยุดชั่วคราวจนถึงปี 2026” ทำให้นักเทรดเกิดความกังวล ดัชนีความกลัวและความโลภของตลาดคริปโต (Crypto Fear & Greed Index) อยู่ที่ 29/100 ซึ่งแสดงถึงความระมัดระวังสูง นักลงทุนจึงเลือกถือ stablecoins มากกว่าเหรียญอื่น ๆ อย่าง ZEC
จุดที่ต้องจับตา:
ความสามารถของ BTC ในการรักษาระดับ 90,000 ดอลลาร์ หากร่วงต่ำกว่านี้ อาจทำให้ ZEC ร่วงลงต่อเนื่อง
2. ความผันผวนของเหรียญความเป็นส่วนตัว (ผลกระทบผสม)
ภาพรวม:
ZEC ร่วงลง 10% เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม หลังจากที่เคยปรับตัวขึ้นถึง 784% ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา การปรับฐานนี้สอดคล้องกับแนวโน้มของเหรียญความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ เช่น Monero (XMR) ที่ลดลง 3.39% และ Dash (DASH) ที่ลดลง 8.23%
ความหมาย:
เหรียญความเป็นส่วนตัวมักเผชิญกับแรงขายที่รุนแรงในช่วงตลาดขาลง เนื่องจากความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและสภาพคล่องที่น้อยลง นอกจากนี้ stablecoin ความเป็นส่วนตัวตัวใหม่ของ Circle อย่าง USDCx ก็เป็นอีกปัจจัยที่ดึงความสนใจจากการทำธุรกรรมแบบปกปิดของ ZEC
3. การร่วงลงทางเทคนิค (สัญญาณเชิงลบ)
ภาพรวม:
ZEC ร่วงต่ำกว่ารูปแบบกราฟ wedge ที่กำลังขึ้นในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง และต่ำกว่าระดับจุดหมุนที่ 416 ดอลลาร์ MACD histogram ที่ -3.01 ยืนยันแรงขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ RSI ที่ 46.68 ยังเปิดโอกาสให้ราคาลดลงได้อีก
ความหมาย:
นักเทรดกำลังจับตาระดับ Fibonacci retracement ที่ 78.6% ซึ่งอยู่ที่ 395 ดอลลาร์ หากราคาปิดต่ำกว่า 400 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงขายตื่นตระหนกจนราคาลดลงไปถึง 370 ดอลลาร์
สรุป
การลดลงของ ZEC มาจากความไม่แน่นอนในภาพรวมของเศรษฐกิจ การทำกำไรหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และแรงกดดันเฉพาะในกลุ่มเหรียญความเป็นส่วนตัว แม้ว่าความต้องการเหรียญความเป็นส่วนตัวยังคงมีแนวโน้มบวกในระยะยาว แต่ความเสี่ยงระยะสั้นยังคงเป็นลบ
จุดที่ต้องจับตา: ZEC จะสามารถรักษาระดับแนวรับที่ 395 ดอลลาร์ได้หรือไม่ หรือหากมีการขายทำลายต่ำกว่า 300 ดอลลาร์ จะทำให้การขาดทุนรุนแรงขึ้นหรือไม่ ควรติดตามความคืบหน้าของกองทุน ZEC ETF ของ Grayscale เพื่อดูทิศทางความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันด้วย