สรุปย่อ
โค้ดเบสของ SOON มุ่งเน้นการพัฒนาด้านความสามารถในการขยายระบบ ความปลอดภัย และการทำงานร่วมกันข้ามเครือข่ายบล็อกเชน
- ZK-Fraud-Proof Rollup (สิงหาคม 2025) – ระบบ ZK fraud-proof บน SVM ตัวแรกที่รองรับการทำงานร่วมกับ Solana
- การรวม Firedancer (เมษายน 2025) – ทำความเร็วได้ถึง 80,000 ธุรกรรมต่อวินาที ผ่าน Jump Crypto’s Solana client
- เปิดตัว Testnet (พฤศจิกายน 2024) – สถาปัตยกรรม Decoupled SVM สำหรับ rollups บน Ethereum
รายละเอียดเชิงลึก
1. ZK-Fraud-Proof Rollup (สิงหาคม 2025)
ภาพรวม: SOON เปิดตัว Soon-Kailua ซึ่งเป็นระบบ ZK-fraud-proof rollup บน Solana Virtual Machine (SVM) ตัวแรก ระบบนี้ผสมผสานการพิสูจน์ความถูกต้องแบบ zero-knowledge กับ optimistic rollups เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
ระบบ rollup นี้ใช้ zkVM ของ RiscZero ในการสร้างหลักฐานการทุจริต (fraud proofs) ช่วยลดเวลาการตรวจสอบข้อพิพาทจากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง และยังรักษาความเร็วในการประมวลผลของ Solana ที่บล็อกใช้เวลาเพียง 50 มิลลิวินาที พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทำธุรกรรมข้ามเครือข่ายแบบไม่ต้องเชื่อใจ (trustless)
ความหมาย: นี่เป็นข่าวดีสำหรับ SOON เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง และเร่งการทำงานร่วมกันข้ามเครือข่าย ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำระหว่าง SVM chains กับเครือข่ายอย่าง Ethereum
(แหล่งที่มา)
2. การรวม Firedancer Client (เมษายน 2025)
ภาพรวม: SOON ผสานรวมกับ Firedancer client ของ Jump Crypto ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลถึง 80,000 ธุรกรรมต่อวินาที โดยมีการตรวจสอบลายเซ็นเร็วขึ้น 12 เท่า และลดการใช้แบนด์วิดท์ลง 83%
โครงสร้างแบบโมดูลาร์ของ Firedancer (แบ่งเป็น Net, Verify, Bank tiles) ช่วยให้สามารถขยายระบบได้อย่างยืดหยุ่น SOON ปรับใช้ Decoupled SVM เพื่อใช้ประโยชน์จากการประมวลผลแบบ SIMD ที่เร็วมาก ทำให้ธุรกรรมเสร็จสิ้นในระดับไมโครวินาที
ความหมาย: นี่เป็นข่าวดีสำหรับ SOON เพราะช่วยเปิดทางให้เกิดการซื้อขายความถี่สูงและการชำระเงินแบบเรียลไทม์สำหรับสินทรัพย์จริง (RWAs) และ DeFi นักพัฒนาจะได้รับประสบการณ์ที่คล้ายกับ Solana บน Ethereum และ BNB Chain
(แหล่งที่มา)
3. เปิดตัว Testnet (พฤศจิกายน 2024)
ภาพรวม: SOON เปิดตัว Testnet ที่ใช้สถาปัตยกรรม Decoupled SVM ซึ่งแยกชั้นการประมวลผลของ Solana ออกจากชั้นการยืนยันผล (consensus) เพื่อสร้าง rollups ที่เป็น native บน Ethereum
สถาปัตยกรรมนี้ช่วยลดต้นทุนการเก็บข้อมูล (DA) ลง 40% และเพิ่มระบบตรวจจับข้อผิดพลาด (fault proofs) นักพัฒนาสามารถนำแอป SVM ไปใช้งานบน Ethereum ได้โดยใช้โค้ดที่ผ่านการตรวจสอบจาก Anza เพื่อให้มั่นใจว่ารองรับกับ Solana’s Agave client
ความหมาย: นี่เป็นข่าวกลาง ๆ สำหรับ SOON เพราะเป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน แต่ช่วยวางตำแหน่ง SOON ให้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างระบบนิเวศของ Solana และ Ethereum ซึ่งน่าสนใจสำหรับนักพัฒนาที่ทำงานกับหลายเครือข่าย
(แหล่งที่มา)
สรุป
โค้ดเบสของ SOON ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ (Firedancer) ความปลอดภัย (ZK proofs) และความสามารถในการทำงานร่วมกันข้ามเครือข่าย (Decoupled SVM) การอัปเดตเหล่านี้ช่วยเสริมบทบาทของ SOON ในฐานะศูนย์กลางการขยายระบบสำหรับ SVM-based chains ด้วยความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับ Ethereum และ Solana คำถามต่อไปคือ SOON จะมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin Layer 2 หรือไม่?