1. ความกังวลในภาพรวมของตลาด (ส่งผลลบ)
ภาพรวม: ตลาดคริปโตเผชิญแรงขายกว้างขวาง มูลค่าตลาดรวมลดลง 5.04% ท่ามกลางความกลัวสูงสุด (ดัชนี CMC Fear & Greed อยู่ที่ 20/100) ความโดดเด่นของ Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น 58.68% ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการย้ายเงินทุนออกจากเหรียญอื่นๆ เช่น RED
ความหมาย: ความสัมพันธ์ของ RED กับตลาดคริปโตที่เน้น Bitcoin ทำให้เกิดแรงขายหนัก การลดลง 25.2% ใน 30 วันที่ผ่านมาแสดงถึงความต้องการเหรียญอื่นที่ลดลงในช่วงที่ตลาดเน้น Bitcoin มากขึ้น ขณะที่ปริมาณเปิดสถานะในตลาดอนุพันธ์ลดลง 9.18% ต่อเดือน แสดงว่าผู้เทรดลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
สิ่งที่ควรติดตาม: แนวโน้มความโดดเด่นของ BTC และการไหลเข้าของกองทุน ETF หาก Bitcoin ยังคงแข็งแกร่ง อาจทำให้ RED ยังมีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าตลาดต่อไป
2. การหลุดระดับทางเทคนิค (ส่งผลลบ)
ภาพรวม: RED หลุดระดับทางเทคนิคสำคัญ ได้แก่
- ราคาซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 วัน (SMA) ถึง 10.8% (0.2889)
- RSI-14 อยู่ที่ 38.46 ซึ่งเป็นระดับกลางแต่มีแนวโน้มลดลง
- ไม่สามารถรักษาระดับ Fibonacci retracement 23.6% ที่ 0.3478 ได้
ความหมาย: การหลุดระดับ Fibonacci ที่ 0.3478 เร่งให้เกิดแรงขายมากขึ้น โดยมีแนวรับถัดไปที่ระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ 0.2421 แม้ MACD histogram จะเปลี่ยนเป็นบวก (+0.0035) แต่ยังต่ำกว่าค่า signal line แสดงถึงแรงขับเคลื่อนที่อ่อนแอ
ระดับสำคัญ: หากราคาปิดเหนือจุด pivot ที่ 0.2676 อาจบ่งชี้ถึงการพักตัวในระยะสั้น
3. ข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง (ผลกระทบผสม)
ภาพรวม: ปริมาณการซื้อขาย 24 ชั่วโมงของ RED เพิ่มขึ้น 9.54% เป็น 4.14 ล้านดอลลาร์ แต่ค่าอัตราการหมุนเวียน (volume/market cap) ยังคงต่ำที่ 0.057 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 0.1 ที่ถือว่ามีสภาพคล่องดี
ความหมาย: ตลาดที่บางเบาทำให้ราคามีความผันผวนสูง – 80.6% ของเหรียญ RED ถูกล็อกไว้ (705 ล้านโทเคน) ทำให้สภาพคล่องหมุนเวียนลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อความผันผวนในช่วงที่มีแรงขาย
สรุป
การลดลงของ RED สะท้อนถึงการลดความเสี่ยงในตลาดคริปโตโดยรวม ซึ่งถูกเร่งด้วยปัจจัยทางเทคนิคที่อ่อนแอและข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง แม้พื้นฐานของ RED ที่เน้นสินทรัพย์จริง (RWA) จะยังแข็งแกร่งจากความร่วมมือกับสถาบันต่างๆ แต่ราคาของโทเคนยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลในภาพรวมและการย้ายเงินทุนออกจากเหรียญอื่น
สิ่งที่ควรจับตา: RED จะสามารถรักษาระดับแนวรับที่ 0.242 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนได้หรือไม่ หากหลุดระดับนี้ อาจมีเป้าหมายถัดไปที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA) ที่ 0.3814 ดอลลาร์ ควรติดตามความโดดเด่นของ BTC และพัฒนาการในภาค RWA เพื่อหาแนวโน้มกลับตัวในอนาคต