สรุปย่อ
MYX Finance คือแพลตฟอร์ม decentralized perpetual exchange (DEX) ที่ออกแบบมาเพื่อรวมประสิทธิภาพระดับเดียวกับ centralized exchange (CEX) เข้ากับความโปร่งใสบนบล็อกเชน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเทรดข้ามเครือข่ายบล็อกเชนได้โดยไม่มีการลื่นไถลของราคา (slippage) ค่าธรรมเนียมต่ำ และใช้งานง่าย
- วัตถุประสงค์: เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงการเทรดอนุพันธ์แบบมีเลเวอเรจบนกว่า 20 บล็อกเชน
- เทคโนโลยี: ใช้ระบบ Matching Pool Mechanism (MPM) เพื่อรวมสภาพคล่องและขจัดปัญหาการลื่นไถลของราคา
- ประโยชน์ของโทเคน: $MYX ให้ส่วนลดค่าธรรมเนียม สิทธิ์ในการร่วมโหวต และรางวัลจากการสเตก
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. วัตถุประสงค์และคุณค่า
MYX มุ่งแก้ปัญหาการกระจายตัวของสภาพคล่องและการลื่นไถลของราคาในตลาดอนุพันธ์แบบ decentralized ต่างจาก DEX ทั่วไปที่มักจำกัดอยู่ในเครือข่ายเดียว MYX รองรับสัญญา perpetual ข้ามเครือข่ายบล็อกเชน พร้อมเลเวอเรจสูงสุดถึง 50 เท่า เหมาะสำหรับทั้งนักเทรดรายย่อยและสถาบัน โดยเน้นให้ผู้ใช้เข้าถึงง่าย เช่น การเทรดบางเครือข่ายไม่ต้องเสียค่าก๊าซหรือเซ็นชื่อในวอลเล็ต (MYX.Finance)
2. เทคโนโลยีและโครงสร้าง
MYX ใช้ Matching Pool Mechanism (MPM) ซึ่งเป็นระบบรวมสภาพคล่องจากหลายเครือข่ายบล็อกเชนเข้าด้วยกันในพูลเดียว ทำให้สามารถเทรดขนาดใหญ่ได้โดยไม่กระทบราคามาก ต่างจากโมเดล Automated Market Maker (AMM) ที่มักมีปัญหาขาดทุนจากความผันผวนของราคา (impermanent loss) นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี chain abstraction ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับสินทรัพย์บนเครือข่าย Arbitrum, BNB Chain และ Linea ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องทำการเชื่อมโยง (bridge) ด้วยตนเอง (MYX GitBook)
3. Tokenomics และการบริหารจัดการ
- ระบบ VIP: การถือครองเพียง 10 $MYX (ประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) ก็จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมแบบขั้นบันไดสูงสุดถึง 70% ในทุกเครือข่ายที่รองรับ
- การบริหารจัดการ: ผู้ถือโทเคนมีสิทธิ์โหวตในการอัปเกรดโปรโตคอลและโครงสร้างค่าธรรมเนียม
- อุปทาน: มีจำนวนโทเคนคงที่ที่ 1 พันล้านโทเคน โดยประมาณ 22% อยู่ในตลาด ณ ธันวาคม 2025 และผู้ที่สเตก $MYX จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์ม (MYX Partnership Program)
สรุป
MYX Finance เป็นการพลิกโฉมตลาดอนุพันธ์แบบ decentralized ด้วยการผสานความสามารถในการทำงานข้ามเครือข่ายบล็อกเชน สภาพคล่องระดับสถาบัน และการออกแบบที่เหมาะกับนักเทรดรายย่อย ความสำเร็จของแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับการรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีท่ามกลางการแข่งขัน (เช่น GMX, dYdX) และการจัดการความโปร่งใสในการกระจายโทเคน คำถามสำคัญคือ ระบบ MPM จะสามารถรักษาความลึกของสภาพคล่องได้เมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นหรือไม่?