สรุปย่อ
NEXPACE (NXPC) คือโทเค็นที่ใช้ในระบบและการบริหารของ MapleStory Universe ซึ่งเป็นระบบเกมบนบล็อกเชนที่เปลี่ยนเกม MMORPG ชื่อดังให้กลายเป็นเศรษฐกิจแบบกระจายอำนาจที่ผู้เล่นเป็นเจ้าของเอง
- แกนหลักเศรษฐกิจเกม – ช่วยให้การสร้าง NFT การซื้อขาย และธุรกรรมภายในระบบเป็นไปอย่างราบรื่น
- โทเค็นโนมิกส์ที่ยั่งยืน – เผาโทเค็น 20% ของรายได้แพลตฟอร์มทุกไตรมาส เพื่อควบคุมปริมาณโทเค็นให้สอดคล้องกับการใช้งาน
- นวัตกรรมจาก Nexon – พัฒนาโดยบริษัทลูกของ Nexon ยักษ์ใหญ่ในวงการเกม ผสานเทคโนโลยี Web3 เข้ากับแฟรนไชส์ที่มีอายุกว่า 23 ปี
รายละเอียดเชิงลึก
1. วัตถุประสงค์และคุณค่า
NXPC เป็นหัวใจของ MapleStory Universe (MSU) ช่วยให้ผู้เล่นเป็นเจ้าของสินทรัพย์ในเกมอย่างแท้จริงผ่าน NFT และตลาดแบบกระจายอำนาจ แก้ปัญหาการควบคุมจากศูนย์กลางและเงินเฟ้อในเศรษฐกิจเกมแบบเดิม โดยเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถซื้อขาย สร้าง และทำกำไรจากไอเท็มได้อย่างเสรี นอกจากนี้ยังสนับสนุน Synergy Apps ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ชุมชนสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกม พร้อมมอบรางวัลแก่ผู้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจ (NEXPACE Burn Disclosure)
2. เทคโนโลยีและโครงสร้าง
MSU สร้างบน Avalanche L1 เพื่อความรวดเร็วและขยายตัวได้ดี ใช้โมเดลผสมผสานดังนี้:
- Fission: แปลงไอเท็มหายากในเกมเป็น NFT โดยใช้ NXPC
- Fusion: เผา NFT กลับเป็นไอเท็มในเกมเพื่อป้องกันการล้นตลาด
โปรโตคอล Cross-Chain Interoperability Protocol (CCIP) ของ Chainlink ช่วยให้โอนสินทรัพย์ข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น ขณะที่ชั้นบล็อกเชนแบบไม่มีการอนุญาตเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างและปล่อย dApps ได้ (CryptoSlate)
3. โทเค็นโนมิกส์และการบริหาร
- การควบคุมปริมาณ: เผาโทเค็น NXPC จำนวน 3.8 ล้านโทเค็นในเดือนพฤศจิกายน 2025 (คิดเป็น 20% ของรายได้ไตรมาส 2-3) และมีแผนเผาโทเค็นอย่างต่อเนื่อง
- การใช้งาน: ใช้จ่ายในการสร้าง NFT ค่าธรรมเนียมตลาด และการใช้งาน Synergy Apps
- การบริหาร: แม้ยังไม่กระจายอำนาจเต็มที่ แต่ NEXPACE มีแผนจะให้ผู้ถือโทเค็นมีสิทธิ์ตัดสินใจในอนาคตเมื่อระบบนิเวศเติบโตขึ้น
สรุป
NXPC สร้างภาพใหม่ให้กับเศรษฐกิจเกมโดยผสมผสานความทรงจำของ MapleStory กับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ในยุค Web3 พร้อมด้วยระบบเผาโทเค็นที่มีโครงสร้างและเทคโนโลยีของ Avalanche โมเดล Fusion-Fission จะสามารถรักษาสมดุลระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นและความหายากของไอเท็มได้อย่างยั่งยืนในขณะที่ระบบนิเวศขยายตัวหรือไม่?