สรุปย่อ
BTT กำลังเผชิญกับสัญญาณที่หลากหลาย ทั้งจากการเพิ่มผลตอบแทนจากการ staking และการถูกถอดออกจากตลาดซื้อขาย นี่คืออัปเดตล่าสุด:
1. ผลตอบแทนจากการ Staking (APY) สูงถึง 7.04% (3 ธันวาคม 2025) – รางวัลการ staking บน BTTC เพิ่มขึ้นอย่างมาก ช่วยเสริมประโยชน์ของ BTT ในระบบนิเวศของ TRON
2. ProBit ประกาศถอด BTT ออกจากตลาดภายใน 8 ธันวาคม 2025 – การถอดเหรียญออกจากตลาดสร้างความกังวลเรื่องสภาพคล่องในระยะสั้น
3. เปิดตัว BTTC 2.0 Mainnet (30 มิถุนายน 2025) – การอัปเกรดระบบข้ามเครือข่ายและการ staking แบบ Proof-of-Stake ช่วยขยายขีดความสามารถของเครือข่าย
รายละเอียดเชิงลึก
1. ผลตอบแทนจากการ Staking (APY) สูงถึง 7.04% (3 ธันวาคม 2025)
ภาพรวม:
ผลตอบแทนจากการ staking ของ BTT บน BitTorrent Chain (BTTC) เพิ่มขึ้นเป็น 7.04% ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2025 จากเดิมที่ 6.98% ในปลายเดือนตุลาคม การเพิ่มขึ้นนี้สอดคล้องกับแรงจูงใจในระบบนิเวศ TRON ที่ต้องการกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ปัจจุบันมีบัญชี BTT ที่ใช้งานอยู่กว่า 249,538 บัญชี และมีสภาพคล่อง BTT มูลค่า 1.64 ล้านดอลลาร์บนแพลตฟอร์ม JustLend DAO ซึ่งแสดงถึงการใช้งานที่ยังคงต่อเนื่อง
ความหมาย:
ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเป็นสัญญาณบวกสำหรับ BTT เพราะการ staking จะช่วยล็อกปริมาณเหรียญและกระตุ้นให้ผู้ถือเหรียญเก็บไว้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ราคาของ BTT ที่ลดลงถึง 33.27% ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าความต้องการ staking ยังไม่สามารถชดเชยแรงกดดันจากตลาดโดยรวมได้เต็มที่
(𝗪𝗲𝗯𝟛 𝗚𝗲𝗺𝗶𝗻𝗶 ♊)
2. ProBit ประกาศถอด BTT ออกจากตลาดภายใน 8 ธันวาคม 2025
ภาพรวม:
ProBit Global ประกาศถอด BTT ออกจากตลาดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2025 โดยจะหยุดให้ถอนเหรียญได้ภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2025 สาเหตุที่ให้คือการปรับปรุงคุณภาพแพลตฟอร์มและการปกป้องผู้ใช้ แม้จะไม่มีการระบุปัญหาเฉพาะกับ BTT
ความหมาย:
การถอดเหรียญออกจากตลาดมักส่งผลให้สภาพคล่องลดลงและอาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบหรือการปฏิบัติตามข้อกำหนด ปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงของ BTT ที่ 18.8 ล้านดอลลาร์ยังคงคงที่หลังประกาศ แต่การถอนตัวของตลาดซื้อขายขนาดเล็กอาจกดดันราคาหากตลาดใหญ่ๆ ทำตาม
(ProBit)
3. เปิดตัว BTTC 2.0 Mainnet (30 มิถุนายน 2025)
ภาพรวม:
BTTC 2.0 เปลี่ยนระบบเป็น Proof-of-Stake (PoS) ทำให้สามารถโอนเหรียญข้ามเครือข่ายระหว่าง Ethereum, TRON และ BNB Chain ได้ ผู้ตรวจสอบเครือข่ายสามารถ staking BTT เพื่อรับผลตอบแทน 6.7% และสิทธิ์ในการร่วมกำกับดูแลเครือข่าย ขณะที่นักพัฒนาจะได้รับเครื่องมือสำหรับสร้างแอปพลิเคชันแบบหลายเครือข่าย (multi-chain dApps)
ความหมาย:
การอัปเกรดนี้ช่วยเสริมบทบาทของ BTT ในโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดการใช้งาน เช่น มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) และปริมาณธุรกรรมของ BTTC ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องติดตามเพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว
(CoinMarketCap)
สรุป
BTT กำลังเผชิญกับความท้าทายระหว่างการเพิ่มประโยชน์จากการ staking กับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากการถูกถอดออกจากตลาด ในขณะที่ BTTC 2.0 และแรงจูงใจด้านผลตอบแทนพยายามลดทอนความกังวลของตลาดขาลง การถอดเหรียญของ ProBit ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากที่ยังคงมีอยู่สำหรับเหรียญขนาดเล็ก คำถามคือ ผลตอบแทนจากการ staking ที่เพิ่มขึ้นจะดึงดูดเงินทุนเพียงพอเพื่อชดเชยการไหลออกจากตลาดซื้อขายหรือไม่?