เป็นคุณสมบัติที่กำหนดว่าไม่สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาผ่านไป
มันมีความสามารถในการบันทึกธุรกรรมต่างๆ เช่น สัญญา การขาย การซื้อ ฯลฯ ในลักษณะที่เมื่อเพิ่มแล้ว ข้อมูลที่ถูกบันทึกเหล่านั้นจะไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงบล็อกที่ตามมาทั้งหมดและการสมรู้ร่วมคิดของเครือข่าย
การแฮชแบบเข้ารหัสเป็นสิ่งที่ทำให้บล็อคเชนไม่เปลี่ยนรูป
แฮชชิ่งเป็นเทคนิคการเข้ารหัสที่รับอินพุตในรูปแบบข้อความธรรมดาที่มีความยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถสร้างค่าแฮชได้โดยไม่ซ้ำใคร แฮชจะมีความยาวคงที่เสมอ โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติของอินพุตที่ใช้
อัลกอริทึมการแฮชเป็นรูปแบบที่ง่าย แต่กลับมีคการย้อนกลับที่ทำได้ยากเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้อัลกอริทึมการแฮช SHA-256 กับวลี "the quick brown fox jumps over the lazy dog" ก็จะมีการส่งกลับเลขฐานสิบหกแบบ 256 บิต (32 อักขระ) เช่น "9e107d9d372a5dcea0c3f78f5340d8d4" ออกมา หากคุณใช้อัลกอริทึมนี้กับสตริงของข้อความอื่นๆ (เช่น รหัสผ่านของคุณ) คุณจะได้ผลลัพธ์เดียวกันเสมอ (ตัวเลขฐานสิบหก 32 อักขระ)
แฮชสามารถใช้เป็นลายเซ็นดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ในด้านความสมบูรณ์ของข้อมูลได้
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ไม่ได้รับประกันว่าข้อมูลจะไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้แบบสมบูรณ์ จุดประสงค์คือเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลหรือบันทึกในบล็อคเชนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่มีผลกระทบ
ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ความสมบูรณ์ของข้อมูล การตรวจสอบที่ง่ายดาย และการป้องกันการฉ้อโกงบนบล็อคเชน
ด้วยการแฮชแบบเข้ารหัสทำให้บล็อคเชนไม่มีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายจะทำให้เครือข่ายทั้งหมดหยุดชะงักลง
Join the thousands already learning crypto!