คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Ethereum และวิธีการทำงานของมัน
ประวัติของ Ethereum
โครงการ Ethereum ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปลายปี 2013 โดย Vitalik Buterin ผ่าน เอกสารไวท์เปเปอร์ นับเป็นการพัฒนาที่น่าทึ่ง เนื่องจาก Buterin กำลังทำงานในโครงการ Mastercoin อยู่ในขณะนั้น โดยเขาทำงานร่วมกับ Mihai Alisie, Anthony Di Iorio, Gavin Wood และ Charles Hoskinson ทั้งนี้ Buterin ได้นำเสนอ Ethereum ในการประชุม Miami Bitcoin ในปลายเดือนมกราคม 2014
มีการระดมทุนจากผู้คนจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการนี้ แคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2014 โดยขาย Ether ได้มากกว่า 50 ล้าน — ซึ่งสร้างขึ้นผ่านการเจเนซิส นักลงทุนสามารถรับ 2,000 ETH สำหรับหนึ่ง Bitcoin ในช่วงสองสัปดาห์แรกของการขาย และลดลงเหลือ 1,339 ETH ต่อ BTC หลังจากนั้น เกือบ 90% ของโทเค็นที่ขายได้ในช่วงสองสัปดาห์แรก เพิ่มขึ้น 31,000 BTC และส่งผลให้มีการสร้างอีก 12 ล้าน ETH เพื่อเป็นทุนในการพัฒนาและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Ethereum
Ethereum ได้แสดงให้เห็นการพัฒนาสามขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่
- Frontier (กรกฎาคม 2015) — กิจกรรมเกี่ยวกับการทำธุรกรรม การใช้เครื่องเสมือนสำหรับ smart contract ความเป็นไปได้ในการขุด และการทดสอบเครือข่าย
- Homestead (มีนาคม 2016) — การรวมข้อเสนอของการปรับปรุง Ethereum การทำธุรกรรมที่เร็วขึ้น Ethereum Foundation เริ่มรับบริจาค ETH จากบุคคลภายนอก
- Metropolis (ตุลาคม 2017) — การอัปเกรดสองครั้งด้วย Byzantium (ตุลาคม 2017) และ Constantinopple (2019) เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับขนาด กระบวนการธุรกรรม และความปลอดภัย การลดรางวัลของการขุด
การอัพเกรดครั้งใหญ่ครั้งต่อไปคือ Serenity ซึ่งเปลี่ยนกลไกของ Ethereum จาก proof-of-work เป็น proof-of-stake หรือที่เรียกว่า " การผสมผสาน " มันไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับการอัปเกรดนี้ แต่มีกำหนดจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2022
Join us in showcasing the cryptocurrency revolution, one newsletter at a time. Subscribe now to get daily news and market updates right to your inbox, along with our millions of other subscribers (that’s right, millions love us!) — what are you waiting for?
Ethereum คืออะไรและ Ether คืออะไร
เงื่อนไขของ Ethereum และ Ether มักจะมีการผสมกันอยู่เป็นประจำ เพราะมันเกี่ยวพันกันในหลาย ๆ ด้าน Ethereum เป็นเครือข่ายที่ขับเคลื่อนการใช้สัญญาและธุรกรรมที่ชาญฉลาด ในขณะที่ Ether หรือ ETH เป็นสกุลเงินที่ใช้ในการระบุมูลค่าธุรกรรมและครอบคลุมค่าธรรมเนียมเครือข่าย
บริการ โปรโตคอล และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ทำงานบนเครือข่าย Ethereum ใช้ Ether เป็นสกุลเงิน เช่นเดียวกับ Bitcoin ที่มี BTCด้าน Ethereum ก็มี Ether
ขณะนี้ไม่มีอุปทานสูงสุดสำหรับ Ether
Ethereum มีการทำงานอย่างไร
สำหรับส่วนประกอบที่สำคัญหลายประการที่ประกอบกันเป็นเครือข่าย Ethereum ตามที่มีการใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง
- Smart contracts ส่วนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินการได้เองซึ่งจะรันชุดของกฎโดยอัตโนมัติเมื่อมีส่วนที่ตรงตามเงื่อนไขในบางประการ สามารถใช้เพื่อกำหนดว่าเมื่อใดที่กองทุนจะเปลี่ยนความเป็นเจ้าของในเครือข่ายและอยู่ภายใต้เงื่อนไขใดที่สามารถเกิดขึ้นได้ Smart contracts ขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของการกระจายอำนาจอย่างมากมาย รวมถึง NFTs, DeFi และอื่น ๆ
- บล็อคเชน Ethereum บันทึกที่ไม่การเปลี่ยนรูปของประวัติการทำธุรกรรมและกิจกรรมของ Ethereum
- กลไกฉันทามติ ปัจจุบัน Ethereum ใช้กลไก proof-of-work เพื่อตรวจสอบและบันทึกข้อมูลบนบล็อคเชน อย่างไรก็ตาม อัลกอริธึมนั้นได้เปลี่ยนเป็น proof-of-stake ในระหว่างการอัพเกรด Serenity
- Ethereum Virtual Machine (EVM) เป็นฟันเฟืองที่สำคัญใน Ethereum เพื่อดำเนินการในส่วนของกฎของเครือข่ายและบังคับใช้กฏเหล่านั้นกับธุรกรรมและ smart contracts ทั้งหมด
- Ether เป็นสกุลเงินพื้นฐานของเครือข่าย Ethereum
- Solidity ภาษาในการเขียนโปรแกรมของเครือข่าย Ethereum ใช้ในการเขียน smart contracts สร้างโปรโตคอลและแอปพลิเคชันแบบ decentralized ละอื่น ๆ Solidity เป็นแบบเชิงวัตถุและได้รับอิทธิพลจาก C ++, JavaScript และ Python
เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้มารวมกัน นักพัฒนาจึงสามารถสร้างสิ่งที่น่าตื่นเต้นบนเครือข่าย Ethereum ได้
ดูคำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีการเรียนรู้ Solidity สำหรับผู้เริ่มต้น
แผนงานในอนาคตของ Ethereum
จุดสนใจหลักของ Ethereum คือการอัปเกรดเป็น Ethereum 2.0ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้า การเปลี่ยนไปใช้ Ethereum 2.0 จะเปลี่ยนอัลกอริธึมฉันทามติของเครือข่ายเป็นแบบ proof-of-stake และปรับความสามารถในการปรับขนาด ความปลอดภัย และความยั่งยืนเพิ่มเติมได้
ส่วนแรกของการอัพเกรดนี้เกี่ยวข้องกับ Beacon Chain มันเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อเปิดใช้ staking บน Ethereum และทำหน้าที่เป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการอัปเกรดในอนาคต ปัจจุบัน Beacon Chain อยู่บนเครือข่าย Ethereum 2.0 แต่ทำงานแยกจาก Mainnet ซึ่งเป็นเวอร์ชัน proof-of-work ของ Ethereum
ในที่สุด ทั้งสองอย่างนี้จะรวมเข้าด้วยกัน เปิดใช้งาน stakingสำหรับเครือข่ายทั้งหมด และการยุติการสนับสนุน proof-of-work
หลังจากนั้น นักพัฒนาก็จะยังคงต้องใช้ shard chains Shards จะทำให้แน่ใจว่า Ethereum มีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมและจัดเก็บข้อมูลที่ในขนาดใหญ่กว่ามาก ซึ่งเป็นสองแง่มุมที่สำคัญสำหรับระบบที่มุ่งเน้นไปที่นักพัฒนาเช่นนี้ Shards จะได้รับคุณสมบัติเพิ่มเติมเมื่อนักพัฒนาเปิดตัวการอัปเกรดผ่านหลายขั้นตอน การใช้งาน Shard Chain จะไม่เกิดขึ้นก่อนปี 2023
จะลงทุนใน Ethereum ต้องทำอย่างไร
เมื่อความสนใจในคริปโตเคอร์เรนซีของทั่วโลกเพิ่มขึ้น ความต้องการลงทุนในสกุลเงินเช่น Ethereum ก็จะเป็นที่พูดถึงมากขึ้น Ethereum (ETH) เป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่สามารถรับได้จาก ตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ centralized และแพลตฟอร์มการซื้อขาย หรือรับผ่านแพลตฟอร์มแบบ decentralized ได้หากคุณเป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซีอยู่แล้ว
ก่อนที่คุณจะเปิดวอลเลทเพื่อลงทุนใน Ethereum คุณจำเป็นต้องได้รับข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้องเสียก่อน คุณจะต้องมีคริปโตวอลเลทที่รองรับ Ethereum เพื่อจัดเก็บ ETH ที่คุณกำลังทำการซื้อ นอกจากนี้ คุณต้องค้นหาตัวกลางการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ แพลตฟอร์มการซื้อขายบางประเภทไม่ได้ให้บริการในทุกประเทศ นี่เป็นสิ่งที่ต้องระวัง
ทั้ง ตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ centralized และ decentralizedก็ล้วนทำให้คุณทำการขาย Ethereum ได้เช่นกัน
การลงทุนใน Ethereum ในหัวข้อตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ Centralized
ตัวกลางการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีเกือบทุกแห่งในโลกช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสกุลเงินเช่น Ethereum ได้ ตัวเลือกเพื่อทำการสำรวจรวมถึงไปถึง
- Binance
- Coinbase
- Bitfinex
- Bitstrap
- Kraken
- OKEx
- Huobi
- และอื่น ๆ อีกมากมาย
ตัวกลางการแลกเปลี่ยนทั้งหมดเหล่านี้จะกำหนดให้คุณต้องสร้างบัญชีและยืนยันตัวตนของคุณก่อน การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทเหล่านี้ เนื่องจากบริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด การสร้างบัญชีไม่มีค่าใช้จ่าย
หลังจากที่บัญชีของคุณได้รับการยืนยันแล้ว ก็ถึงเวลาเติมเงินเพื่อให้คุณสามารถลงทุนใน Ethereum ได้ ตัวกลางการแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ผู้ใช้ฝากเงินเข้าบัญชีด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร แต่ในบางบริษัทก็จะรองรับบัตรเครดิตหรือแม้แต่อนุญาตให้มีการฝากเงินสดได้ด้วย อย่าลืมสำรวจตัวเลือกต่าง ๆ ตามที่คุณต้องการ และเลือกใช้ตัวเลือกที่เหมาะสม การฝากเงินโดยใช้การโอนเงินผ่านธนาคารอาจใช้เวลาหลายวันทำการจึงจะทำรายการได้เสร็จสมบูรณ์ โดยการฝากเงินในวันเดียวกันก็อาจเป็นได้ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณใช้งาน
เมื่อคุณมีเงินในบัญชีแล้ว ให้ไปที่อินเทอร์เฟซการแลกเปลี่ยนเพื่อค้นหาคู่ซื้อขายสำหรับ Ethereum และสกุลเงินในบัญชีของคุณ ทำการแปลง [ส่วนหนึ่งของ] ยอดคงเหลือของคุณเป็น Ethereum โดยการสั่งซื้อในราคาที่คุณยินดีที่จะจ่าย เมื่อเสร็จสิ้นการแปลงเงิน ยอดคงเหลือของ Ether จะอยู่ในวอลเลทแลกเปลี่ยนของคุณ คุณสามารถปล่อยมันไว้ที่นั่นหรือย้ายไปยังวอลเลทของ Ethereum ที่เฉพาะคุณเท่านั้นที่จะรู้รหัสหรือประโยคที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย
การลงทุนใน Ethereum ในหัวข้อตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ Decentralized
หากคุณเป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซีอยู่แล้ว การลงทุนใน Ethereum ก็จะเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยน [ส่วนหนึ่งของ] คริปโตเคอร์เรนซีที่มีอยู่กับ Ethereum สำหรับผู้ที่ต้องการทำผ่าน ตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ decentralized อย่าลืมตรวจสอบแพลตฟอร์มเหล่านี้ก่อนทำธุกรรมใด ๆ
- Uniswap
- Sushiswap
- 1Inch
- และอื่น ๆ อีกมากมาย
มันต่างจากแพลตฟอร์มแบบ centralized เนื่องจากตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ไม่ต้องการให้ผู้ใช้สร้างบัญชี ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนโดยตรงจากดิจิตอลวอลเลทของพวกเขาแทน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น
การซื้อขายจะแปลงสินทรัพย์ที่คุณเป็นเจ้าให้กลายเป็น Ethereum มีการส่งคำสั่งซื้อไปยังตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ decentralized และเมื่อเสร็จสิ้น ยอดคงเหลือของ ETH จะถูกส่งไปยังวอลเลทของคุณโดยตรง
ติดตามบทสรุปของ ตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ใน 10 อันดับแรกของปี 2022
วิธีใช้วอลเลทของ Ethereum
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าแพลตฟอร์มใดที่จะต้องการใช้ในการลงทุนใน Ethereum ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งค่า วอลเลท ของ Ethereum หากไม่มีมัน คุณจะไม่สามารถจัดเก็บ Ether ของคุณโดยปลอดภัยได้ แม้ว่าตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ centralized จะช่วยให้ผู้ใช้จัดเก็บกองทุนคริปโตผ่านโซลูชันการดูแล แต่พวกเขายังต้องการให้ผู้ใช้ขอการนุมัติจากพวกเขาเสมอเพื่อเข้าถึงกองทุน ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนัก
วอลเลทของ Ethereum ให้ผู้ใช้จัดเก็บ Ethereum และโทเค็น ERC-20, ERC-721 และมาตรฐานโทเค็นของเครือข่ายอื่น ๆ
วอลเลทของ Ethereum มีหลายประเภทที่เราสามารถใช้งานได้ ผู้ใช้บางคนชอบโซลูชันซอฟต์แวร์ที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพา บางคนชอบความปลอดภัยและชอบการควบคุมมากกว่าเล็กน้อย จึงเลือกใช้ฮาร์ดแวร์วอลเลทแทน ฮาร์ดแวร์วอลเทเป็นอุปกรณ์ USB ที่มีการป้องกันโดยการเข้ารหัสซึ่งจำเป็นต้องเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือผ่าน Bluetooth เพื่อใช้งาน
ตัวอย่างของ ฮาร์ดวอลเลท ได้แก่
- Ledger Nano S/X
- Trezor
- Satochip
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ ซอฟต์แวร์โซลูชัน ตัวเลือกต่อไปนี้เป็นที่นิยมและมีความปลอดภัย
- MetaMask (สำหรับคอมพิวเตอร์และมือถือ)
- MyEtherWallet
- MathWallet
- Argent
- Numio
- เบราว์เซอร์ Opera (สำหรับ iOS และ Android)
- และอื่น ๆ อีกมากมาย
การค้นหาวอลเลทที่เหมาะกับคุณก็จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณคาดหวังจากวอลเลทนั้นเอง ฟังก์ชันการทำงานจะแตกต่างกันไปตามตัวเลือกต่าง ๆ และไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการการแจ้งเตือนและรายการที่ไม่จำเป็น ฟังก์ชันการส่งและรับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อต้องลงทุนใน Ethereum อย่างไรก็ตาม บางคนอาจต้องการสำรวจในขอบเขตที่กว้างขึ้น เช่น การโต้ตอบกับ NFTs แอปพลิเคชันแบบ decentralized แพลตฟอร์ม DeFi และอื่น ๆ อีกมากมาย
การใช้ซอฟต์แวร์วอลเลทนั้นมีความตรงไปตรงมา เพีบงติดตั้งซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่คุณชื่นชอบและทำตามขั้นตอนการตั้งค่า หากวอลเลทได้ทำการสร้างให้กับคุณแล้ว โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สำรองข้อความรักษาความปลอดภัยเริ่มต้นไว้แล้ว ชุดคำนี้จะแสดงถึง คีย์ส่วนตัว ของวอลเลท และรับรองว่าคุณเป็นเจ้าของที่อยู่ที่ถูกต้องและเงินทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การสำรองข้อมูลนี้ควรทำโดยการเขียนลงไปบนกระดาษ การจัดเก็บข้อมูลแบบดิจิทัลทำให้เสี่ยงต่อการโจมตีของแฮกเกอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไฟล์ข้อความถูกจัดเก็บแบบออนไลน์
เมื่อการตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์ คุณจะได้รับภาพรวมของที่อยู่วอลเลทของคุณและให้ตัวเลือกในการสร้างที่อยู่ใหม่หากคุณต้องการ ที่อยู่นี้จะถูกใช้เมื่อคุณลงทุนใน Ethereum และส่งเงินไปยังวอลเลทของคุณ
โดยไม่คำนึงถึงตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบ centralized หรือ decentralized จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ย้าย Ethereum ที่คุณซื้อไปยังวอลเลทของคุณเรียบร้อยแล้ว วอลเลทที่คุณควบคุม ควรทำให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถใช้จ่ายเงินได้โดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากบุคคลที่สาม
เป็นที่น่าสังเกตว่าประโยคเริ่มต้นในด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับวอลเลทของ Ethereum ของคุณไม่ได้ผูกติดอยู่กับซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เฉพาะ ดังนั้น หากคุณตัดสินใจที่จะสำรวจวอลเลทตัวอื่น ๆ คุณสามารถนำเข้าที่อยู่และยอดคงเหลือที่มีอยู่ของคุณได้อย่างง่ายดาย อย่าลังเลที่จะลองใช้งานตัวเลือกต่าง ๆ แต่ก็ควรมีการปกป้องข้อมูลบัญชีของคุณเสมอ
ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับความ แตกต่างระหว่างฮอทวอลเลทและโคลวอลเลท และ คริปโตวอลเลทที่ดีที่สุดใน 10 อันดับแรกสำหรับผู้เริ่มต้น
บทความนี้มีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามหรือเนื้อหาอื่น ๆ เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น (“เว็บไซต์บุคคลที่สาม”) ไซต์ของบุคคลที่สามไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ CoinMarketCap และ CoinMarketCap จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาของไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงลิงก์ที่มีอยู่ในไซต์ของบุคคลที่สาม หรือการเปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตของบุคคลที่สาม เว็บไซต์ปาร์ตี้ CoinMarketCap ให้ลิงก์เหล่านี้แก่คุณเพื่อความสะดวกเท่านั้น และการรวมลิงก์ใด ๆ ไม่ได้หมายความถึงการรับรอง การอนุมัติ หรือคำแนะนำโดย CoinMarketCap ของเว็บไซต์หรือการเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้และต้องใช้เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำการวิจัยและวิเคราะห์ของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจที่สำคัญใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใดๆ ที่อธิบายไว้ บทความนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นและจะไม่ถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน ความคิดเห็นและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของผู้เขียน [ของบริษัท] และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงความคิดเห็นของ CoinMarketCap
