เจาะลึก
1. จุดประสงค์และคุณค่า
WAX มีเป้าหมายเพื่อทำให้การเป็นเจ้าของดิจิทัลและการซื้อขายออนไลน์ง่ายขึ้น โดยเน้นที่ NFT, สินทรัพย์ในเกม และของสะสมดิจิทัล ก่อตั้งในปี 2017 โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมเกมและความบันเทิง ช่วยให้ผู้สร้างสามารถแปลงสินค้าดิจิทัล เช่น ไอเท็มในเกม หรือของสะสมเสมือน เป็นโทเค็น และผู้ใช้สามารถซื้อขายได้อย่างปลอดภัย แบรนด์ดังอย่าง Funko และ Topps ใช้ WAX ในการปล่อย NFT โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของ WAX เพื่อกระจาย NFT ในวงกว้าง
2. เทคโนโลยีและโครงสร้าง
WAX ใช้ระบบ delegated proof-of-stake (DPoS) ซึ่งเป็นกลไกการยืนยันธุรกรรมที่ผู้ถือโทเค็นจะเลือกผู้ผลิตบล็อกเพื่อยืนยันธุรกรรม ทำให้ได้ประโยชน์ดังนี้
- เวลาสร้างบล็อกเพียง 500 มิลลิวินาที ทำให้ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว
- ธุรกรรมไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใช้ (ค่าธรรมเนียมจะถูกดูแลโดยแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มตลาด)
- WAX Cloud Wallet: ระบบล็อกอินที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา ช่วยลดความยุ่งยากในการเริ่มต้นใช้งาน
- WAX RNG: ตัวสร้างเลขสุ่มแบบกระจายศูนย์ เพื่อความยุติธรรมในการเล่นเกมและการแจก NFT
บล็อกเชนของ WAX ยังเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับ EOS ทำให้สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่นได้
3. ระบบนิเวศและการใช้งาน
ระบบนิเวศของ WAX ครอบคลุม
- ตลาด NFT: แพลตฟอร์มอย่าง AtomicHub และ NeftyBlocks มีการซื้อขาย NFT เป็นล้านรายการต่อเดือน
- เกม: เกมอย่าง Splinterlands และ Alien Worlds ใช้ WAX ในการจัดการสินทรัพย์ในเกม โดยมี SDK สำหรับมือถือ (Unity, React Native) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มฟีเจอร์บล็อกเชนในเกมได้ง่าย
- สินทรัพย์จริงที่แปลงเป็นโทเค็น: โครงการล่าสุดกำลังสำรวจการแปลงหุ้น, อสังหาริมทรัพย์ และงานศิลปะเป็นโทเค็น เพื่อเชื่อมโลกการเงินแบบดั้งเดิมกับ Web3
สรุป
WAX คือบล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อการเป็นเจ้าของดิจิทัลที่ราบรื่น ผสานความเร็ว, ประหยัดค่าใช้จ่าย และเครื่องมือที่เน้นผู้สร้างสรรค์ ระบบนิเวศที่เติบโตครอบคลุมเกม, NFT และสินทรัพย์ที่แปลงเป็นโทเค็น ทำให้ WAX เป็นศูนย์กลางนวัตกรรม Web3 ที่น่าสนใจ แล้วโครงสร้างพื้นฐานของ WAX จะกลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการนำสินทรัพย์จริงที่แปลงเป็นโทเค็นมาใช้ในวงกว้างได้หรือไม่?